เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความระบุว่า “กระแสการเมืองไหลไปสู่พรรคเพื่อไทย
ผลจากรัฐธรรมนูญกำหนดให้ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบซึ่งเข้าทางพรรคเพื่อไทยที่เคยได้ชัยชนะในการเลือกตั้งแบบนี้ต่อเนื่องมาตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งแรกนับแต่มีรัฐธรรมนูญ 2540 ทั้งผลการหยั่งเสียงโดยโพลอิสระต่าง ๆ ก็ตรงกันว่าพรรคเพื่อไทยจะได้รับเลือกตั้งแบบถล่มทลาย ประสานกับข่าวที่อดีต ส.ส. นักการเมืองทั้งหลายกำลังไหลไปยังพรรคเพื่อไทย
แม้กระทั่งพรรคการเมืองใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ก็ยกพวกไปเข้าพรรคเพื่อไทยด้วย ก็เป็นวิสัยนักการเมืองที่ใคร ๆ ก็ต้องการเป็นรัฐบาล
โดยเฉพาะ คือ วาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 ประกอบมาตรา 264 นั้นเป็นปราการสำคัญซึ่งยากที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะฝ่าไปได้ ประกอบทั้งโพลอิสระทั้งหลายก็ได้เปิดเผยผลโพลเกี่ยวกับความนิยมที่ลดต่ำลงมากที่สุดกว่าทุกระยะที่ผ่านมา
ในขณะที่พรรคก้าวไกลก็ปรากฎการจากผลโพลว่าจะได้รับการสนับสนุนจากคนรุ่นใหม่ที่อายุตั้งแต่ 18-35 ปีและกำลังลามไปถึงอายุ 40 ปี จะได้ชัยชนะในการเลือกตั้งในเขตเมือง
ดังนั้น จึงเกิดข่าวลือที่หนักหน่วงเอาการว่าจะมีการยุบพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลก่อนการเลือกตั้ง!!!
และมีการเคลื่อนไหวจากกลุ่มคนที่สนับสนุนรัฐบาลจนผิดสังเกต เพราะความลับไม่มีในโลกการเมือง
ถ้าหากพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลถูกยุบหลังจากสมัครเลือกตั้งแล้ว ทั้งสองพรรคนี้ก็จะไม่มีสิทธิได้รับเลือกตั้งเลยแม้แต่คนเดียว
กรณีก็จะซ้ำรอยการยุบพรรคไทยรักษาชาติซึ่งทำให้พรรคพลังประชารัฐตีตื้นขึ้นมาเป็นคู่แข่งในการจัดตั้งรัฐบาลด้วยพลังอำนาจมหาศาลในขณะนั้น
แต่วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปแล้ว พลังอำนาจไม่เท่ากับช่วงเลือกตั้งคราวก่อนในขณะที่บทเรียนในการยุบพรรคไทยรักษาชาติก็เป็นที่รู้กันแล้ว จะมาใช้แผนนี้อีกก็คงจะไม่ได้ผล!!!
เพราะทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลคงไม่โง่ให้ถูกยุบพรรคแบบเดียวนั้นอีก
ดังนั้น ข่าวคราวการก่อตัวของรัฐบาลใหม่จึงปรากฏขึ้นเป็นระยะ ๆ และยิ่งทำให้การเมืองภายในพรรคร่วมรัฐบาลสั่นไหวมากกว่าทุกระยะที่ผ่านมา”