เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ร.ต.อ.บัญญัติ ชนะสิทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ตลิ่งชัน รับแจ้งอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย บริเวณหน้าร้านต้มเลือดหมู ถนนพุทธมณฑลสาย 1 แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุเป็นถนน 3 เลน ฝั่งมุ่งหน้าถนนเพชรเกษม เลนซ้ายสุดหน้าร้านขายยางรถยนต์ พบรถโตโยต้า วีออส สีขาว ทะเบียน 5 กฮ 2514 กรุงเทพมหานคร สภาพพลิกตะแคงขวา ประตูหน้าด้านซ้ายหลุด ตัวรถพังยับ ตรวจสอบภายในรถพบนายพงษ์ปวีร์ พงษ์หิรัญ อายุ 25 ปี คนขับบาดเจ็บติดภายใน เจ้าหน้าที่ใช้อุปกรณ์ตัดถ่างให้การช่วยเหลือจนนำตัวออกมา อีกรายเป็นลูกสาวของนายพงษ์ปวีร์ อายุ 6 ขวบ มีบาดแผลถลอกตามลำตัวเล็กน้อย เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตัวส่ง รพ.วิชัยเวช

ใกล้กันพบรถ จยย.ยามาฮ่า ฟีโน่ สีน้ำเงินดำ ทะเบียน ษยย 170 กรุงเทพมหานคร สภาพพังยับเยินล้ออยู่ ห่างไปประมาณ 10 เมตร พบศพ น.ส.มธุรส สมุทรเสน อายุ 25 ปี ชาว จ.ระยอง พนักงานฝ่ายกราฟิก บริษัทเครื่องสำอางแห่งหนึ่งอยู่ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร สภาพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด สภาพศีรษะแตก แขน และขาหัก เจ้าหน้าที่นำกรวยยางปิดกั้นที่เกิดเหตุเพื่อพิสูจน์พลิกศพ ก่อนนำตัวส่งชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ทำให้เหลือถนนช่องทางเดียว ทำให้การจราจรติดขัดยาวประมาณ 2 กิโลเมตร

จากการสอบสวน นายพงษ์ปวีร์ พอให้การได้ว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถออกจากบ้านย่านสวนผัก จะไปส่งลูกสาวที่โรงเรียนย่านถนนพรานนก-พุทธมณฑล โดยขับรถข้ามสะพานข้ามถนนบรมราชชนนีด้วยความเร็วสูง เมื่อมาถึงจุดเกิดซึ่งเป็นทางโค้งรถเสียหลักส่ายไปมา ตนพยายามเหยียบเบรก แต่รถก็ไม่หยุด จึงดึงเบรกมือทำให้รถหมุน จนลูกสาวตกจากเบาะข้าง จึงเอื้อมมือไปคว้าลูกไว้ จากนั้นรถพลิกคว่ำไถลไปหยุดนิ่งหน้าร้านยาง บาดเจ็บดังกล่าว

ด้าน นายภูวดล บุญประสิทธิ์ อายุ 27 ปี เจ้าของร้านขายยาง กล่าวว่า ได้ยินเสียงรถไถลมาแต่ไกล จนมาชนหน้าร้านถังน้ำแข็ง และรถ จยย.ของตนที่จอดไว้หน้าร้านได้รับความเสียหาย โดยกล้องวงจรปิดในร้านจับภาพไว้ได้

ขณะที่เพื่อนผู้ตาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายเดินทางมาถึงบริษัทและตอกบัตรเข้างานแล้ว จากนั้นได้เดินออกมาซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ ระหว่างกำลังเดินกลับเข้าที่ทำงานก็ถูกรถยนต์คันดังกล่าวพุ่งมาชนเสียชีวิตดังกล่าว ทั้งนี้ปกติแล้วผู้ตายมักจะเดินออกไปกับเพื่อนๆ อีก 2-3 คน แต่ครั้งนี้เดินออกมาคนเดียวไม่อย่างนั้นคงมีการสูญเสียมากกว่านี้ เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินเสียหาย นายพงษ์ปวีร์ ไว้ก่อน หลังรักษาตัวหายดีแล้วจะนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป