เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงการจำลองฉากทัศน์หรือการค่าประมาณการระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน จัดทำโดยกรมควบคุมโรคสรุปว่า จากหลักฐานทางวิชาการพบว่าเชื้อโอมิครอน มีความสามารถในการแพร่ระบาดง่ายกว่าติดง่ายกว่าเชื้อเดลตาที่มีอยู่ในประเทศไทย แต่ว่าความรุนแรงของโรคน้อยกว่าเชื้อเดลตา พร้อมเตือนหากระบบสาธารณสุขรองรับไม่ไหว จะทำให้ผู้ป่วยอาการรุนแรง และเสียชีวิตเพิ่มขึ้น สำหรับฉากทัศน์ มีทั้งหมด 3 แบบ

(1) ฉากทัศน์ที่รุนแรงที่สุด คือ อัตราการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้นจากการระบาดของโอมิครอน การฉีดวัคซีนได้ใกล้เคียงกับช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. 2564 เฉลี่ย 2-3 ล้านโด๊สต่อสัปดาห์, ประชาชนให้ความร่วมมือในการป้องกันตัวเองน้อย, ไม่มีมาตรการป้องกัน ขณะทำกิจกรรมรวมคน, สถานประกอบการจัดกิจกรรมแบบไม่สามารถปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด (VUCA)

“ขณะนี้กำลังเฝ้าระวังอยู่สมมุติเราไม่ทำอะไรเลยจะมีการระบาดควบคุมได้ยากใช้เวลา 3-4 เดือนในการควบคุม การติดเชื้อรายวันอาจถึง 30,000 ราย เสียชีวิตประมาณ 170-180 รายต่อวัน” ปลัด สธ. กล่าว

(2) ฉากทัศน์ระดับปานกลาง อัตราการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้นจากการระบาดของโอมิครอน ซึ่งเป็นกรณีที่ การฉีดวัคซีนใกล้เคียงกับช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค. 2564 ฉีดวัคซีนเฉลี่ย 2-3 ล้านโด๊สต่อสัปดาห์, ประชาชนยังให้ความร่วมมือในการควบคุมป้องกันโรคอย่างเข้มข้น, สถานประกอบการการจัดกิจกรรมปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด (VUCA)

“หากเราทำได้ระดับปานกลางตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันจะอยู่ที่ 1.5 ถึง 1.6 หมื่นราย และค่อยๆ ทรงตัวและค่อยๆ ลดลงในที่สุด” นพ.เกียรติภูมิกล่าว

(3) ฉากทัศน์ระดับดีที่สุด คือ อัตราการแพร่เชื้อโอมิครอนไม่สูงมากเนื่องจากยังควบคุมการระบาดในประเทศได้ช่วงเดือน ม.ค.65 ฉีดวัคซีนทั้งเข็ม 1 เข็ม 2 และ Booster dose มากกว่า 4 ล้านโด๊สต่อสัปดาห์, ประชาชนให้ความร่วมมือในการควบคุมป้องกันโรคขั้นสูงสุดลดกิจกรรมรวมกลุ่มคนจำนวนมาก, สถานประกอบการจัดกิจกรรมปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด (VUCA) อย่างเคร่งครัด, ผับบาร์เปิดควบคุมได้ดีมาก

“ถ้าสมมุติเราควบคุมได้ดี อาจมีตัวเลขที่ติดเชื้อประมาณ 10,000 รายนิดๆ และใช้เวลาในการควบคุมโรคได้เร็วประมาณ 1-2 เดือนแล้วตัวเลขจะลดลงมา ส่วนอัตราเสียชีวิตประมาณ 60-70 ราย” ปลัด สธ. กล่าว

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่าปัจจุบันไทยมาถึงทางแยกอีกครั้งหนึ่งเนื่องจากมีการระบาดของเชื้อโอมิครอนซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีศักยภาพในการระบาดสูง กระทรวงสาธารณสุข ขอความร่วมมือทุกฝ่ายปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิดและไม่อยากให้มีการล็อกดาวน์ประเทศ ต้องพยายามป้องกันให้ดีที่สุด ปัจจุบันระบบสาธารณสุข มีเตียงรองรับ 1.7 แสนเตียง เตียงสีแดงปัจจุบันมีประมาณ 5000 เตียง ใช้ไป 31%, เตียงสีเหลืองมีประมาณ 60,000 เตียงใช้ไป 25%, ส่วนเตียงสีเขียวมีเยอะมากและสามารถเพิ่มจำนวนได้ในระยะเวลาอันสั้น หากไม่มีอาการมาก กระทรวงสาธารณสุขจะให้ผู้ติดเชื้ออยู่ที่บ้านอยู่ที่ชุมชนเพื่อดูแลตัวเอง และป้องกันตัวเองไม่ให้แพร่เชื้อ ส่วนยาฟาวิพิราเวียร์มีในคลัง สธ.15 ล้านเม็ด สามารถใช้ได้ ประมาณ 2 เดือน อย่างไรก็ตามองค์การเภสัชฯ ได้เตรียมสารสำคัญสำหรับผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ 60 ล้านเม็ด หากไม่พอจริงๆ สามารถเร่งผลิตได้ทันที ขณะทียาเรมเดซิเวียร์ มี 4 หมื่นไวแอล.