สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ว่า เซฟ เดอะ ชิลเดรน ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรสาธารณกุศลระหว่างประเทศของสหราชอาณาจักร เผยแพร่แถลงการณ์ ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ภาคสนาม 2 คน ซึ่งเป็นชาวเมียนมาทั้งคู่ รวมอยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 35 ราย จากเหตุโจมตีและสังหารหมู่ ที่เมืองโมโซ ในเขตชานเมืองพรูโซ ของรัฐกะยา ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมียนมา เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา


ทั้งนี้ เซฟ เดอะ ชิลเดรน ให้ข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนอยู่ระหว่างเดินทางกลับไปยังสำนักงาน หลังเสร็จสิ้นภารกิจด้านมนุษยธรรมในชุมชนที่อยู่ใกล้เคียง และประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการละเมิดกฎหมายด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศ พร้อมทั้งเรียกร้องคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ยกระดับมาตรการตอบสนองต่อการใช้ความรุนแรงต่อกองทัพ ด้วยการเพิ่มมาตรการปิดล้อมด้านอาวุธ


หลังเกิดเหตุ เซฟ เดอะ ชิลเดรน ได้ระงับภารกิจในพื้นที่หลายแห่งของเมียนมาแล้ว เพื่อความปลอดภัยของบุคลากร ขณะที่รายงานขององค์สังเกตการณ์ “เมียนมา วิตเนส” ระบุว่า กองทัพเมียนมาสังหารประชาชนอย่างน้อย 35 ราย และพาหนะหลายคันถูกเผาทำลายจนเสียหายราบคาบ


ส่วนสื่อมวลชนอิสระอีกหลายแห่งของเมียนมารายงานเพิ่มเติม ว่าในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด มีอย่างน้อย 10 ราย เป็นชาวบ้านของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในเมืองโมโซ และสมาชิก 4 คนของกองกำลังท้องถิ่นซึ่งไปเจรจาให้ทหารปล่อยตัวชาวบ้านกลุ่มนี้ ถูกสังหารด้วย


อย่างไรก็ตาม กองทัพเมียนมาไม่ได้ให้ความเห็นอย่างตรงไปตรงมาต่อเหตุการณ์ดังกล่าว แต่บอกเพียงว่า ในวันเกิดเหตุ มีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และทหารเรียกหยุดยานพาหนะ “ที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย” เพื่อควบคุมสถานการณ์.

เครดิตภาพ : AP