นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ราคาเนื้อหมูแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มขึ้นมาที่ กก.ละ 95-96 บาท และยังมีโอกาสขยับขึ้นไปเกิน กก.ละ 100 บาท โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสาน ภาคเหนือที่มีราคาสูงกว่าภาคกลางและกรุงเทพฯ ส่งผลให้ราคาเนื้อหมูหน้าเขียงจะเพิ่มเป็น กก. 200 บาท สำหรับสาเหตุมาจากปริมาณหมูเป็นในตลาดลดลง ประกอบกับต้นทุนการเลี้ยงหมูเพิ่มต่อเนื่อง ทั้งจากราคาอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้น 30% เช่น กากถั่วเหลืองขึ้นจาก กก. 16 บาท เป็น 21.50 บาท ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จาก กก. 6.50 บาท เป็น 10.5 บาท อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายดูแลป้องกันโรคติดต่ออีกตัวละ 500 บาท

“ราคาที่จำหน่ายนี้เป็นราคาที่ผู้เลี้ยงพอจะคุ้มทุนบ้าง แต่ไม่ได้มีกำไรเหลือเยอะแยะ เพราะต้นทุนการเลี้ยงเพิ่มขึ้นทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมาสมาคมฯ ขอให้กระทรวงพาณิชย์ช่วยแก้ไขปัญหาอาหารสัตว์ราคาแพงไปแล้ว แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือเลย ดังนั้นจะมาขอคุมราคากับผู้เลี้ยงฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะที่ผ่านมาผู้เลี้ยงก็ขาดทุนมานาน สำหรับแนวโน้มราคาหมูเชื่อว่าใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า มีโอกาสขึ้นได้อีก โดยเฉพาะภาคเหนือและอีสาน เพราะมีคนเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวเยอะทำให้ความต้องการบริโภคเพิ่ม แต่หลังจากนั้นราคาจะค่อยปรับลดลง แต่ก็ยังอยู่ในระดับสูง”

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า หมูเนื้อแดงราคาสูงขึ้นจากสัปดาห์ก่อน โดยตามตลาดสด อยู่ที่ 160-180 บาทต่อ กก. และกรณีเป็นเขียงหรือตลาดสดเล็กๆ ที่รับมาเป็นทอดที่สองหรือที่สามก็จะสูงขึ้นอีก 10-20 บาท ส่วนราคาในห้างค้าปลีกค้าส่ง ขายที่ กก. 139-145 บาท โดยจากการประชุมหารือร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ พบว่าขณะนี้ปริมาณหมูที่เข้าสู่ตลาดลดลง ทำให้มีพ่อค้าเสนอแข่งราคารับซื้อสูงขึ้น ในเบื้องต้นกรมการค้าภายในได้ขอความร่วมมือให้ผู้เลี้ยงสุกรจำหน่ายให้กับผู้ค้ารายเดิมเป็นลำดับแรก และทางกรมปศุสัตว์จะได้ประชุมเพื่อดูแลปัญหาปริมาณสุกรที่เข้าสู่ตลาดลดลง และกรมการค้าภายในจะกำหนดมาตรการดูแลปริมาณและราคาที่เหมาะสมต่อไป ซึ่งระหว่างนี้ ได้จัดโครงการพาณิชย์…ลดราคา! หมูเนื้อแดง 130 บาทต่อ กก. จำนวน 667 จุด ทั่วประเทศ ถึง 31 ธ.ค.นี้