เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า รฟท. คาดการณ์ว่าช่วงเทศกาลปีใหม่ 65 จะมีผู้ใช้บริการรถไฟเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวจำนวนมาก จึงพ่วงตู้โดยสารจนเต็มหน่วยลากจูงในขบวนรถที่วิ่งให้บริการปกติทุกสายทั่วประเทศ และเพิ่มขบวนรถพิเศษไป-กลับ ในทุกเส้นทาง โดยจะพิจารณาจากสถานการณ์ในแต่ละวัน เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนให้เพียงพอต่อความต้องการ ในช่วงระหว่างวันที่ 30 ธ.ค.64-5 ม.ค.65 ตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ทั้งนี้ทำให้ รฟท. มีขบวนรถให้บริการประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ถึง 176 ขบวน รองรับปริมาณการเดินทางได้สูงสุดถึง 1 แสนคนต่อวัน

“ขอแจ้งย้ำถึงผู้โดยสารทุกคนว่า การให้บริการเดินรถในปัจจุบันยังคงให้บริการสถานีต้นทาง และปลายทางที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ตามปกติ ไม่ได้มีการย้ายไปที่สถานีกลางบางซื่อแต่อย่างใด พร้อมทั้งยังเปิดให้ขบวนรถชานเมือง และขบวนรถโดยสารทางไกลสามารถเดินรถ และหยุดให้บริการรับส่งผู้โดยสารที่สถานีบางเขน สถานีหลักสี่ และสถานีดอนเมืองเดิม โดยให้เลื่อนการใช้เส้นทางการเดินรถพื้นที่โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงที่สถานีกลางบางซื่อออกไปก่อน” นายเอกรัช กล่าว

นายเอกรัช กล่าวต่อว่า สำหรับแผนการพิจารณาย้ายสถานีต้นทาง และปลายทางนั้น ขณะนี้ รฟท. อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดตามข้อสั่งการของผู้ว่า รฟท. ที่กำชับให้เจ้าหน้าที่จัดทำสถิติในทุกๆด้าน โดยมีผู้เชี่ยวชาญและสถาบันการศึกษาร่วมให้คำแนะนำ เพื่อพิจารณาโครงสร้างพื้นฐาน การเชื่อมต่อการเดินทางของประชาชน การขนส่งสินค้า การอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และความปลอดภัยในการเดินรถและจะประเมินแผนการเดินรถ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้งสูงสุด

นายเอกรัช กล่าวด้วยว่า รฟท. ได้จัดตั้งศูนย์ปลอดภัย ทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค สำหรับอำนวยความสะดวก และดูแลความปลอดภัยการเดินทางแก่ประชาชน ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.64-4 ม.ค.65 พร้อมเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ สารเสพติดของพนักงานขับรถ เจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถ และประจำสถานีก่อนปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงห้ามจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนขบวนรถและบริเวณสถานีรถไฟ ตลอดจนดำเนินมาตรการทางสาธารณสุขในการเฝ้าระวัง และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด.