ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมทางหลวง (ทล.) แจ้งว่า ตามที่รัฐบาล และ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม มีนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ และกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นในช่วงปลายเดือน ธ.ค. ถึงต้นเดือน ม.ค. ซึ่งเป็นเดือนที่อยู่ในช่วงฤดูหนาวและช่วงเทศกาลปีใหม่ ขอเชิญชวนนักเดินทางท่องเที่ยวแบบวิถีใหม่ (New Normal) เน้นการดูแลสุขภาพและความปลอดภัย สูดอากาศบริสุทธิ์ที่จุดชมวิวริมเส้นทางสายธรรมชาติสัมผัสหมอกหน้าหนาวยามเช้าชมแสงแรกของพระอาทิตย์หรือจะชมความงามของพระอาทิตย์ตกดินในยามเย็น ซึ่งเป็นทิวทัศน์สวยงามหลายเส้นทางด้วยกัน คือ 

1.ทางหลวงหมายเลข 1093 (ตอน ขุนห้วยไคร้-ผาตั้ง) ที่ กม.63+500 อยู่ในพื้นที่หน่วยบำรุงทางภูชี้ฟ้า แขวงทางหลวงเชียงรายที่ 2 ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะเดินทางไปอุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้าที่ได้ชื่อว่าหลังคาแห่งสยามที่ประมาณ กม.64+600 นอกจากนี้หน่วยบำรุงทางภูชี้ฟ้ายังมีพื้นที่กางเต็นท์ให้สัมผัสธรรมชาติและนั่งดูดาวยามค่ำคืนอีกด้วย

2.ทางหลวงหมายเลข 1009 (ตอน จอมทอง-ดอยอินทนนท์) ที่ กม.40-41 อยู่ในพื้นที่หมวดทางหลวงจอมทอง แขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 1 ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะเดินทางไปยัง พระมหาธาตุเจดีย์พระนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ รวมทั้งเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกาและเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน และดอยอินทนนท์ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของแดนสยาม หากนักเดินทางต้องการพักเหนื่อยหรือกางเต็นท์สัมผัสบรรยากาศยอดดอย สามารถมาพักได้ที่หมวดทางหลวงจอมทอง ช่วง กม.ที่ กม.ที่ 30+450 ซึ่งจะอยู่เลยจุดชมวิวประมาณ 10 กม.

3.ทางหลวงหมายเลข 1095 (ตอน ท่าไคร้-แม่ฮ่องสอน) ที่ กม.154+800 จุดชมวิวลุกข้าวหลาม อยู่ในพื้นที่หมวดทางหลวงแม่ฮ่องสอน แขวงทางหลวงแม่ฮ่องสอน จุดชมวิวนี้เป็นที่พักระหว่างการเดินทางปางมะผ้า-แม่ฮ่องสอน

4.ทางหลวงหมายเลข 1095 (ตอน แม่นะ-ท่าไคร้) ที่ กม.120+500 จุดชมวิวกิ่วลม อยู่ในพื้นที่หมวดทางหลวงปางมะผ้า แขวงทางหลวงแม่ฮ่องสอน เป็นจุดชมวิวเช้าที่ให้ชมธรรมชาติแบบเทือกเขาสลับซับซ้อนอยู่ระหว่างเส้นทางปาย-ปางมะผ้า

5.ทางหลวงหมายเลข 108 (ตอน แม่สุริน-ปางหมู) ที่ กม.337+025 จุดชมวิวผาบ่อง อยู่ในพื้นที่หมวดทางหลวงแม่ฮ่องสอน แขวงทางหลวงแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่อยู่ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ 12 กม. เป็นที่พักระหว่างการเดินทางจาก อ.เมืองแม่ฮ่องสอน-ขุนยวม

6.ทางหลวงหมายเลข 1226 (ตอน จ่าโบ่-ปางคาม) ที่ กม.3+150 จุดชมวิวบ้านจ่าโบ่ อยู่ในพื้นที่หมวดทางหลวงปางมะผ้าแขวงทางหลวงแม่ฮ่องสอน เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวสวยๆ แบบ 360 องศา

7.ทางหลวงหมายเลข 2196 (ตอน นางั่ว-ทุ่งสมอ) ที่ กม.23+600 ด้านขวาทาง อยู่ในพื้นที่หมวดทางหลวงเขาค้อ แขวงทางหลวงเพชรบูรณ์ที่ 1 ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะเดินทางไปบนเขาค้อ เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่กรมทางหลวงมีพื้นที่กางเต็นท์ที่หมวดทางหลวงเขาค้อให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวต้องการสัมผัสบรรยากาศเมืองแห่งสายหมอก

8.ทางหลวงหมายเลข 1090 (ตอน ห้วยน้ำริน-อุ้มผาง) ช่วง กม.87+935 – 88+135 อยู่ในพื้นที่หมวดทางหลวงคีรีราษฎร์ แขวงทางหลวงตากที่ 2 ซึ่งเป็นจุดพักกึ่งกลางทางระหว่างทางจาก อ.แม่สอดไป อ.อุ้มผาง โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 1167 และเข้าทางหลวงหมายเลข 1288 เพื่อไปน้ำตกทีลอซู ซึ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย และใหญ่เป็นอันดับ 6 ของเอเชีย โดยทางหมวดฯ ได้มีบริการพื้นที่กางเต็นท์ให้บริการแก่นักเดินทางได้พักระหว่างทางด้วย

9.ทางหลวงหมายเลข 2222 (ตอน โขงเจียม-สะพือ) ที่ กม.0+850 อยู่ในพื้นที่หมวดทางหลวงโขงเจียม แขวงทางหลวงอุบลราชธานีที่ 2 โดยพื้นที่จะอยู่ติดกับวัดถ้ำคูหาสวรรค์ และภายในบริเวณหมวดฯ จะมีหน้าผาให้ชมวิวและมองลงไปจะมองเห็นบรรยากาศแม่น้ำโขงและพื้นที่กางเต็นท์ให้บริการแก่นักเดินทางได้สัมผัสธรรมชาติยามค่ำคืนอีกด้วย

10.ทางหลวงหมายเลข 211 (ตอน ศรีเชียงใหม่-ห้วยเชียงดา) ที่ กม.73+500 ด้านขวาทาง ซึ่งจุดชมวิวจะอยู่ในพื้นที่หมวดทางหลวงสังคม แขวงทางหลวงหนองคาย ซึ่งมีพื้นที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง นักเดินทางจะได้สัมผัสความสดชื่นและความสวยงามของธรรมชาติริมฝั่งแม่น้ำโขง หากมองไปจะเห็นทิวเขาที่ตั้งอยู่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยเส้นทางนี้กรมทางหลวงได้จัดให้เป็นจุดพักคอยระหว่างการเดินทางไปยังสกายวอร์ค วัดผาตากเสื้อประมาณ 10 กม. และสามารถเดินทางต่อไปยัง อ.ปากชม และ อ.เชียงคาน จ.เลย

และ 11.นอกจากนี้ในระหว่างการเดินทางหากผ่านมาทางหลวงหมายเลข 1 (ตอน พาน-ร่องขุ่น) ที่ กม.896+845-กม.897+158 ด้านขวาทางริมถนนพหลโยธิน  แขวงทางหลวงเชียงรายที่ 1 หมวดทางหลวงแม่ลาว จะมีบ่อน้ำร้อนห้วยทรายขาวอยู่ริมถนนพลโยธินในพื้นที่ โดยจะมีห้องแช่ตัวให้บริการจำนวน 4 ห้อง อาคารแช่เท้าจำนวน 2 จุด จุดบริการนวดแผนไทย  โดยจะไม่มีการเก็บค่าบริการใดๆ  ซึ่งเปิดให้บริการในวันจันทร์-วันอาทิตย์ เวลา 08.00-16.00 น. โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอำนวยความสะดวกตลอดเวลาให้บริการ

ทั้งนี้ได้มีการรองรับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวนี้  โดยจัดเตรียมจุดบริการกางเต็นท์ทั่วประเทศจำนวน 38 แห่ง จุดให้บริการทั่วไทย 421 แห่ง ซึ่งภายในจุดบริการทั่วไทยจะมีเจ้าหน้าที่พร้อมให้บริการประชาชนผู้ใช้ทางตลอด 24 ชั่วโมง อาทิ การให้ข้อมูลเส้นทาง แนะนำเส้นทางเลือก บริการน้ำดื่ม รวมทั้ง แอลกอฮอล์เจลล้างมือ หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันและควบคุมเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมทั้งได้จัดเตรียมห้องน้ำสะอาดบริการประชาชน 581 แห่ง (ในพื้นที่หมวดทางหลวงทั่วประเทศ)

อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือประชาชนจอดยานพาหนะบริเวณสองข้างทางอย่างระมัดระวังระหว่างทำการถ่ายภาพเพื่อป้องกันปัญหาการจราจรติดขัดและอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และปฏิบัติตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข “การท่องเที่ยววิถีใหม่” (New Normal) หากต้องการสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) หากต้องการขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือรถเสียสามารถสแกน QR CODE และติดตั้งแอพพลิเคชั่น Line กรมทางหลวงพร้อมให้ความช่วยเหลือ 24 ชม. http://www.doh.go.th/content/page/news/176563