จากกรณีล่าสุด ทิดสมปอง หรืออดีตพระมหาสมปอง ได้กล่าวผ่านไลฟ์สด ประกาศขอท้าต่อยมวยกับ นายศรีสุวรรณ เป็นมวยไทยคาดเชือกในวันวาเลนไทน์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นการต่อยมวยกันด้วยความรักและเป็นการสะสางสิ่งที่ท้าทายกันผ่าน Facebook จะได้จบลง หรือหากศรีสุวรรณไม่พร้อมในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ก็สามารถไปต่อยกันได้อีกครั้งในวันที่ 13 เมษายน 2565 ตามที่ได้เสนอข่าวแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 1 ม.ค.นายศรีสุวรรณ จรรยา  เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยกับ “เดลินิวส์ออนไลน์”ว่า  ตนเองไม่รับคำท้า ถ้าตนรับคำท้าของมหาสมปอง ก็จะกลายเป็นเรื่องดราม่าไม่จบ แต่มหาสมปองบวชมา 30 พรรษา ร่ำเรียนเปรียญธรรม 7 ประโยค มีความรู้ทางธรรมค่อนข้างเยอะ ส่วนตนเป็นคนเล็กๆ ร่ำเรียนศึกษาทางธรรมมาไม่เกินพรรษา หากเทียบกันก็ห่างกันลิบลับ การมาชกกับผู้ที่มีความรู้ทางธรรมขนาดนั้น ตนเห็นว่าไม่เหมาะสม เพราะเป็นคนพุทธ จะกลายเป็นว่าไม่รู้ที่ต่ำที่สูง ควรไม่ควร การมาท้าชกกับตนนั้นถือเป็นบุญวาสนา แต่เกรงจะเป็นบาปหนักที่ไปชกกับพระที่มีพรรษาสูง จึงไม่อยากรับคำท้า กลัวจะเป็นบาปกรรม

อีกทั้งไม่เกิดประโยชน์ใดๆ แต่จะเกิดประโยชน์กับมหาสมปอง ที่จะไปขายของ ขายสินค้าอีกมากมาย ดังนั้นตนบวกลบคูณหารแล้วเห็นว่าไม่ควร และถ้าหากมีการชกจริงๆ ก็ย่อมมีคนแพ้คนชนะ ถ้ามีคนแพ้ก็จะเสียใจ ส่วนคนชนะก็จะกระหยิ่มยิ้มย่อง ดังนั้นไม่รับคำท้าเรื่องก็จบ

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ส่วนก่อนหน้านี้ตนเคยโพสต์ว่าอยากถูกมหาเตะปากเหลือเกิน ก็ไม่ได้หมายความว่าตนจะไปชกกับมหาสมปอง ถ้าท่านอยากจะเตะปากตน ตนก็ยื่นหน้ายื่นตาให้ชกได้เลย มาชกตนที่บ้าน หรือมาเตะตนที่บ้านก็ได้ ตนยินดีให้ท่านเตะ ชกได้เลย และยินดีอย่างมากที่ได้เกียรติอันสูงส่งที่มหาเปรียญ 7 ประโยค มาชกมาเตะถึงตัวได้ เท่านั้นเองนี่คือเจตนารมณ์

“หากจะพูดเรื่องวุฒิภาวะ ผมคิดว่าไม่น่าจะหลุดคำพูดชนิดนี้ออกมา ท่านไปพูดในรายการโหนกระแส หลังจากสึกมาได้แค่ 2-3 วัน ผมคิดว่าวุฒิภาวะของท่าน เมื่อเทียบกับการเป็นเพศบรรพชิตมา ถึง 30 พรรษามันดูไม่เหมาะสมเลย แสดงว่ามหาเองก็ควรคุมอารมณ์ ความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ การพูดอย่างนั้นท้าตีท้าต่อยผ่านสื่อฯ ผ่านผู้ชม แน่นอนคนที่เป็นเอฟซี ก็ดีใจ แต่ผมคิดว่าชาวพุทธอื่นอาจจะมองว่าเป็นพฤติกรรมการกระทำที่ไม่สำรวมแม้จะสึกมาแล้ว คนอาจตำหนิได้ว่าพระธรรม รสพระธรรมที่ได้เรียนรู้มากว่า 30 พรรษาไม่ได้ขัดเกลาความรู้สึกหรือพฤติการณ์ ที่จะต้องแสดงออกต่อสาธารณะเลยหรือ การมาท้าตี ท้าชกมันไม่มีความเหมาะสมใดๆ โดยวุฒิภาวะของท่าน อันนี้น่าจะเป็นผลลบมากกว่าผลบวก”นายศรีสุวรรณ กล่าว

นายศรีสุวรรณ กล่าวตอนท้าย อย่างไรก็ตามตนคงไม่ฝากอะไรไปถึงมหาสมปอง เพราะเมื่อท่านสึกออกมาเป็นฆราวาสแล้ว ก็หวังว่าท่านจะดำเนินธุรกิจที่ท่านคาดหวังไว้ ให้ประสบความสำเร็จ แต่ก็ให้คำนึงถึงภาพลักษณ์ของท่านต่อการเคยเป็นพระมากว่า 30 พรรษา ก็ควรใช้คำสอนพระพุทธองค์ในการกำกับชีวิตของตัวเอง และขออนุโมทนาด้วย ที่ท่านพูดมาตลอดว่า กำไร 10 เปอร์เซ็นต์ทั้งหมดจะช่วยนำไปช่วยเหลือผู้ที่ยากไร้ อันนี้เป็นนิมิตหมายที่ดี อยากให้ท่านรักษาเจตนารมณ์อย่างนี้ตลอดไป และขอฝากไว้ว่าตนไม่อยากให้มหาสมปองเข้าไปยุ่งกับการเมือง เพราะเป็นเรื่องที่ต้องช่วงชิงผลประโยชน์ ซึ่งกันและกัน การช่วงชิงอำนาจ และแน่นอนว่าจะต้องมีคู่ขัดแย้ง เรื่องบางอย่างท่านอาจจะทำไม่ดีไว้ แล้วสังคมไม่เคยรู้อาจจะถูกนำมาตีแผ่ประจาน สู้เป็นบุคคลสาธารณะช่วยเหลือสังคมจะได้รับการสรรเสริญมากกว่า