เมื่อวันที่ 2 ม.ค. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุว่า สั่งสอบทหารเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้งซ่อมว่าไม่มีอะไร ว่า สิ่งที่นายราเมศ รัตนเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประสานงานส่วนกลาง ออกมาพูด เพราะเราได้ข้อมูลมาจากชาวบ้านในพื้นที่ว่ามีทหารเข้ามาในพื้นที่ มีการเข้าไปพักในที่พักหลายแห่งใน จ.ชุมพร แต่เมื่อสังเกตดูลักษณะต่างๆ และสืบค้นข้อมูลแล้ว ก็มีลักษณะคล้ายทหารอย่างที่นายราเมศพูด จึงต้องขอให้ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ตรวจสอบ เพราะทหารดังกล่าวอาจไม่ใช่จากกองทัพภาคที่ 4 แต่เป็นทหารนอกพื้นที่ เมื่อเป็นข่าวออกไป ตนก็ทราบจากชาวบ้านว่ามีการย้ายคนกลุ่มนี้ออกจากพื้นที่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เราก็ยังจับตามองต่อไป ถ้าผบ.ทบ.ตรวจสอบ ก็จะทราบว่ามีกองทัพอื่นเข้ามาในภาคใต้ ในลักษณะเชิงลับหรือไม่เพราะมาแบบนอกเครื่องแบบ หากตรวจสอบย้อนหลังไปก็จะทราบได้ไม่ยาก

“เรื่องนี้พูดมาหลายครั้งแล้วในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ว่ามีการใช้อำนาจรัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง อาทิ การเลือกตั้งซ่อม ส.ส. ที่ จ.นครศรีธรรมราช แทนนายเทพไท เสนพงศ์ ความจริงพวกเราหวังที่จะเห็นการเลือกตั้งมีความสุจริตเที่ยงธรรม แต่เมื่อใดทีมีการเอาอำนาจรัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง การเลือกตั้งก็ไม่สุจริตไปได้ ถ้าผบ.ทบ.เอาจริงเอาจัง แม้กองทัพภาค 4 ตรวจสอบแล้ว ก็ขอให้ฝ่ายอำนาจรัฐมีความเป็นกลาง และหวังว่า ผบ.ทบ.จะได้ยืนหยัดในแนวทางนี้ตลอดจนถึงวันลงคะแนน” นายสาทิตย์ กล่าว

เมื่อถามถึงการที่แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุว่า พวกเดียวกันทั้งนั้น นายสาทิตย์ กล่าวว่า แม่ทัพภาคที่ 4 อาจพูดให้เห็นว่าท่านรู้จักทุกคน แต่โดยเจตนาของกฎหมายก็หวังว่าการใช้อำนาจรัฐจะไม่ไปเอื้อให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และทหารต้องเป็นมิตรกับประชาชน ทำหน้าที่ของตัวเองให้เข้มแข้ง ไม่ว่าผู้มีอำนาจในรัฐบาลจะสั่งการรอย่างไร เราก็ให้ท่านปฏิบัติกับทุกคนอย่างเป็นมิตร แค่นี้ก็ขอบคุณมากแล้ว