เมื่อวันที่ 4 ม.ค. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงปัญหาการนับวาระพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ครบ 8 ปี ว่า จากการติดตามบรรดานักการเมือง นักกฎหมาย ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ สรุปได้ว่าวันที่ 24 ส.ค. 65 จะยื่นเรื่องร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย แต่ตนไม่เข้าใจว่าทำไมต้องรอถึงวันนั้น เพราะตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ให้สิทธิสามารถยื่นร้องผ่านคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ ฉะนั้น ตนจึงตั้งใจว่าวันที่ 10 ม.ค. จะไปยื่นสำนวนต่อ กกต. ให้ศึกษาข้อกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย และเมื่อถึงวันที่ 24 ส.ค. ศาลรัฐธรรมนูญสามารถสั่งให้พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ได้เพราะไม่เช่นนั้นหากมีคำสั่งการบริหารราชการต่างๆ เกิดขึ้นในขณะนั้นจะยุ่งยาก

“ถ้าเป็นแบบที่ฝ่ายค้านวางกำหนดไว้ คือวันที่ 24 ส.ค. ได้แค่เข้าชื่อเพื่อเสนอนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ซึ่งตามขั้นตอนต้องตรวจสอบรายชื่อ ส.ส. จากนั้นส่งศาลรัฐธรรมนูญ ผมถามว่าระหว่างแบบที่ผมทำกับแบบที่ฝ่ายค้านทำ แบบไหนเร็วกว่ากัน ฝากบอกฝ่ายค้านอ่านกฎหมายให้แม่นเป็น ส.ส.มา 2 ปีกว่า การยื่นร้องเพื่อพิจารณาวาระนายกฯ ครบ 8 ปี ใช้เพียงแค่เสียงของหัวหน้าแต่ละพรรคของฝ่ายค้านก็เพียงพอแล้ว ถ้าฝ่ายค้านเขียนสำนวนไม่ถูกฝากให้ผมเขียนให้ก็ได้ หรือถ้ากลัวเสียหน้าฝากเรืองไกรร้องก็ได้ ร้องให้ฟรี ถ้านายกฯโกรธผมไม่สนใจ เพราะเป็นประโยชน์ของประเทศ เป็นเรื่องของความสง่างามสรุปแล้วอยู่เป็นนายกฯต่อได้หรือไม่ได้” นายเรืองไกร กล่าว.