ในวันแรกของการเปิดตลาดหลักทรัพย์ในปี 2565 (3 ธ.ค. 65) มูลค่าหุ้นของแอปเปิลอิงค์ขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 182.88 ดอลลาร์ (ราว 6,096 บาท) ต่อหุ้น ทำให้มูลค่าโดยรวมของแอปเปิลในตลาดสูงกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 100 ล้านล้านบาท) โดยราคาเมื่อตอนปิดตลาดอยู่ 182.01 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6,067 บาท) ต่อหุ้น และมูลค่ารวมอยู่ที่ 2.99 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (99.65 ล้านล้านบาท)

สาเหตุที่ทำให้มูลค่าหุ้นของแอปเปิลพุ่งสูงนั้น เนื่องมาจากนักลงทุนมองว่าผู้บริโภคยังคงยอมจ่ายแพงเพื่อผลิตภัณฑ์อย่างไอโฟน แม็คบุ๊กและบริการสตรีมมิ่งอื่น ๆ เช่น แอปเปิลทีวีและแอปเปิลมิวสิก

แอปเปิลกลายเป็นบริษัทมูลค่าเกิน 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐร่วมกับบริษัทไมโครซอฟท์ ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าอยู่ที่ 2.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 83.3 ล้านล้านบาท) ขณะที่อัลฟาเบ็ทอิงค์ (กูเกิล), อะเมซอน อิงค์ และเทสลา อิงค์ มีมูลค่าในตลาดของแต่ละบริษัทเกิน 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ 

มูลค่าหุ้นของแอปเปิลเพิ่มขึ้น 5,800% นับตั้งแต่ผู้ก่อตั้งบริษัทอย่าง สตีฟ จ็อบส์ เปิดตัวไอโฟนรุ่นแรกในปี 2550 

ภายใต้การบริหารของทิม คุก ซึ่งก้าวขึ้นมาเป็นซีอีโอในปี 2554 หลังจากที่จ็อบส์เสียชีวิต แอปเปิลอิงค์ก็มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจากบริการประเภทวิดีโอและมิวสิคสตรีมมิ่ง ซึ่งมีส่วนช่วยให้แอปเปิลพึ่งพายอดขายจากผลิตภัณฑ์ตัวหลักอย่างไอโฟนน้อยลง โดยรายได้จากการขายของไอโฟนเหลือเพียง 52% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัทในปีงบประมาณ 2564 สร้างความพอใจแก่นักลงทุนในตลาดที่เคยมองว่าแอปเปิลอาศัยผลิตภัณฑ์ตัวท็อปของตนเองมากเกินไปในการสร้างรายได้ แม้จะยังมีนักลงทุนบางส่วนที่ยังกังขาว่าแอปเปิลอาจถึงขีดจำกัดในการดึงเงินออกจากกระเป๋าผู้บริโภคแล้ว 

เมื่อเทคโนโลยีใหม่ เช่น คลื่นสัญญาณ 5G, แพลตฟอร์ม VR และปัญญาประดิษฐ์ AI เข้าสู่ตลาดมากขึ้น ก็ยิ่งเพิ่มความน่าดึงดูดใจแก่นักลงทุนให้กับบริษัทแอปเปิลและบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อื่น ๆ  

ในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของสินค้าประเภทสมาร์ทโฟน แอปเปิลยังคงเป็นผู้นำของตลาดติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 แล้ว โดยนำหน้าคู่แข่งอย่าง Vivo และ Xiaomi 

ขณะเดียวกัน เทสลา ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ที่มีมูลค่าสูงสุดของตลาดหลักทรัพย์ประเภทยานยนต์กำลังทุ่มทุนอย่างหนักไปที่รถยนต์ไฟฟ้า นักลงทุนจำนวนมากจึงคาดว่าแอปเปิลเองก็น่าจะเปิดตัวรถยนต์แบรนด์ของตัวเองได้ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า 

เครดิตภาพ : Reuters