น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของธนาคารออมสิน หรือ โครงการซอฟต์โลน ออมสินฟื้นฟูท่องเที่ยวไทย วงเงิน 5,000 ล้านบาท โดยขยายกลุ่มเป้าหมายของโครงการให้ครอบคลุมธุรกิจอื่นที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้ง ผู้ผลิตรายย่อย ผู้ค้าส่ง ผู้ค้าปลีก เพื่อให้เอสเอ็มอีได้รับการช่วยเหลืออย่างทั่วถึงและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

สำหรับโครงการนี้เดิมกำหนดที่ปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มเป้าหมายเอสเอ็มอีในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและซัพพลายเชน ทั้ง ร้านอาหาร ธุรกิจสปา นวดแผนไทย รถรับจ้างนำเที่ยว เกสต์เฮาส์ โดยปล่อยสินเชื่อต่อรายไม่เกิน 5 แสนบาท ดอกเบี้ย 3.99% ต่อปี ไม่ต้องมีหลักประกัน พร้อมกับขยายระยะเวลารับคำขอสินเชื่อออกไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย.65 จากเดิมที่สิ้นสุดวันที่ 30 ธ.ค.64 โดยที่ผ่านมา ธนาคารออมสินได้อนุมัติสินเชื่อโครงการไปแล้ว จำนวน 4,137 ราย รวมเงินทั้งสิ้น 1,746 ล้านบาท และยังมีวงเงินคงเหลืออีกจำนวน 3,254 ล้านบาท จากวงเงินรวมทั้งโครงการ 5,000 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ ครม.ยังมีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลามาตรการสินเชื่อสู้ภัยโควิด-19 กลุ่มเป้าหมายผู้มีรายได้ประจำ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ เกษตรกร จากเดิมที่มีกำหนดระยะเวลารับคำขอสินเชื่อถึงวันที่ 31 ธ.ค.64 ออกไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย.65 ซึ่งธนาคารออมสินได้ดำเนินการอนุมัติสินเชื่อตามมาตรการฯ ไปแล้ว จำนวน 820,380 ราย จำนวนเงินทั้งสิ้น 8,204 ล้านบาท และยังมีวงเงิน คงเหลืออีกจำนวน 1,796 ล้านบาท วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร อนุมัติสินเชื่อตามมาตรการฯ ไปแล้ว จำนวน 28,911 ราย จำนวนเงินทั้งสิ้น 288 ล้านบาท และยังมีวงเงินคงเหลืออีก จำนวน 9,712 ล้านบาท จากวงเงินรวม 10,000 ล้านบาท

“ขณะนี้ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศเริ่มกลับมาดำเนินกิจการ/กิจกรรมตามปกติ ดังนั้น การขยายระยะเวลาคำขอรับสินเชื่อจะช่วยเสริมสภาพคล่องสำหรับการดำเนินธุรกิจ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และผู้ประกอบการรายย่อย ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดให้สามารถประกอบอาชีพและดำเนินธุรกิจต่อไปได้”