จากกรณี กานต์ วิภากร ศุขพิมาย ภรรยา เสก โลโซ หรือ เสก เสกสรรค์ ศุขพิมาย โพสต์เฟซบุ๊กของเสกซัด ดรีม กัญญาณัฐ แฟน เสือ เสฏกานต์ ลูกชาย ทำนองขโมยเงิน 20 ล้าน เป็นเด็กไซด์ไลน์ แถมด่าสารพัด โพสต์ภาพปืน จนเสือ ดรีม และ กวาง ลูกกานต์-เสกอีกคน ร้องศาลขอให้คุ้มครองความปลอดภัย ยื่นข้อเสนอ 5 ข้อให้เข้ารับการรักษาตรวจจิตเวช รวมทั้งแฟนเสือยังฟ้องกานต์ข้อหาหมิ่นประมาท ล่าสุดรายการโหนกระแสได้พาหนุ่มเสือและสาวดรีมที่อยากชี้แจงความจริงที่กำลังเป็นประเด็น มาพร้อม ป้อม ปัณชพัฒน์ อาของดรีมเพื่อเล่าถึงเรื่องราวดังกล่าว

เสือ เผยว่า “ผมรู้จักดรีมมาประมาณปีกว่าครับ คบหาดูใจกันนานพอสมควร เกือบ 2 ปี เป็นแฟนเกินปีครึ่ง ผมเข้าใจนะแต่วันนี้ผมอยากพูดตรงๆ ว่าผมไม่ได้มาเพื่อเลือกฝั่ง ไม่ได้มาเพื่อเลือกดรีมแทนแม่ หรือเลือกแม่แทนดรีม ไม่ได้มาโจมตีใคร แต่อยากชี้แจงบางเรื่อง ที่ได้ออกมาในโพสต์ ในโซเชียลมีเดีย ที่ผ่านมาไม่เคยพูดเลย และผมไม่มีเจตนาทำร้ายแม่ครับ ตามที่เขาพูดกับดรีมกับผม ผมอยากบอกตรงๆ ว่าผมไม่เคยคุยอะไรกับดรีมเรื่องครอบครัว ใช้ชีวิตประจำวันปกติ ไม่เคยคุยเรื่องลึกๆ ไม่มีเลย ที่ล่าสุดเขาโพสต์ว่าผมไปขโมย เอาของออกมาโน่นนี่ ที่แม่โพสต์ผมอยากบอกว่ามันไม่จริงเลย ที่แม่บอกว่า 10-20 ล้าน คือมันมีบัญชีประจำของกรุงเทพบัญชีนึง ซึ่งเป็นข่าวเมื่อสองปีที่แล้ว ที่พ่อกับแม่โอนมาให้ประมาณ 15 ล้าน พ่อกับแม่โอนเงินให้เสือประมาณ 15 ล้าน บัญชีนี้เป็นบัญชีประจำที่ผมไม่ได้ใช้เลย ล่าสุดเอามาใช้ช่วยผ่อนบ้านที่เราอยู่ด้วยกัน ซึ่งเป็นบ้านอีกหลัง ที่แม่กับพ่ออยู่ด้วย ผมไม่เคยใช้บัญชีอะไรนั้นเลย เช็กสเตตเมนต์ได้ ตอนนี้ผมไม่มีการเข้าบัญชีนั้นเลย ไม่มีบุ๊กแบงก์อะไรเลย หายไปเลย อีกประเด็นที่เขาบอกว่าเอาตังค์คริปโต บิตคอยน์ไป เรื่องคริปโตผมดูแลให้พ่อแม่ ดูแลให้ครอบครัวมาตลอดประมาณครึ่งปีได้กับพี่คนนึงที่รู้จักกับคุณพ่อ ผมไม่เคยถอนไปทำอะไรเองเลยจะถอนไปทำอะไรก็คุยกันตลอด ตอนนี้ก็ไม่ได้ทำอะไร ถ้าแม่อยากได้คืน หรือครอบครัวอยากได้คืนผมก็พร้อมโอนไปให้ได้เลย”

“แม่เขาหาว่าผมเอาบุ๊กแบงก์ตัวนี้ไป ซึ่งผมไม่มีตัวนี้เลย ผมไม่เคยจับ ไม่มีจริงๆ เลย เขาหาว่าดรีมเอาไปด้วย ซึ่งก็ไม่ใช่เลย ผมไม่ได้จับบุ๊กแบงก์อันนี้เลย เพราะใช้แค่ธนาคารสองอันที่ใช้ประจำต่อวัน แต่อันนี้ผมไม่ได้จับเลย แล้วผมไม่รู้ว่าผมเซ็นลายเซ็นไหนไป ภาษาไทยหรืออังกฤษ ชื่อเต็มหรือไทเกอร์ ผมก็ไม่รู้เลย ผมไม่อยากเล่าเหตุการณ์ตอนนั้นเลยเพราะเป็นอะไรที่หนักใจ อันนี้มีคนหาว่าผมไปฟ้องแม่ ซึ่งมันไม่ใช่ ผมแค่ไปขอความช่วยเหลือจากศาล ไม่มีการฟ้องทางกฎหมาย มีเรื่องนั้น และมีเรื่องความปลอดภัยของตัวเองและน้องสาว ซึ่งผมขอไม่เล่าอะไรมาก แต่เป็นสิ่งที่ผมคิดว่าผมต้องทำปัจจุบันตอนนี้ ผมรักครอบครัวมาก อยากให้ครอบครัวอยู่ด้วยกันได้อย่างมีความสุขจริงๆ อยากกลับบ้าน ที่ไม่กลับบ้าน ผมรู้สึกหนักใจและไม่ปลอดภัย อันนี้คือจริงๆ เลย แต่อย่างที่บอกผมพูดไม่ได้ ไม่อยากพูดว่าอะไรเป็นอะไร แต่เป็นเรื่องที่หนักกับผมมาก ผมอยู่จุดนั้นไม่ได้ แล้วที่บอกว่าดรีมเอาผมออกจากบ้านไปก็ไม่ใช่ ผมเลือกออกมาอยู่จุดนี้เอง เลือกหาที่อยู่เอง เลือกหาความปลอดภัยให้น้องด้วย”

“จริงๆ ผมอยากให้ทุกอย่างดีขึ้นทั้งสองฝ่าย อยากให้สองฝ่ายคุยกันอย่างมีเหตุผลอย่างที่ดรีมบอก อยากให้คุยกันด้วยสติ และให้ทุกอย่างจบดีที่สุด แต่อะไรที่เกิดขึ้นก็รุนแรงจริงๆ ทางลุงป้อมกับดรีมเขาจะดำเนินการยังไงเขาก็มีสิทธิ์ ผมไม่ได้อยากให้เป็นเรื่องสาธารณะใหญ่แบบนี้เลย เรื่องครอบครัวผมไม่เคยอยากให้ทุกคนมารู้เกี่ยวกับครอบครัวว่าเราใช้ชีวิตกันยังไง เรามีปัญหากันยังไง แต่ว่ามันออกมาแล้วก็ต้องเดินทางต่อไปให้ได้ครับ ที่อยากชี้แจง ผมไม่ได้มีเจตนาเลือกแฟนแทนแม่เลยจริงๆ แต่ที่บอกตั้งแต่แรก ผมเห็นว่าอะไรเกิดขึ้นมันไม่ถูกต้อง ไม่เป็นจริงที่มากล่าวหาดรีมเป็นโน่นเป็นนี่ มันไม่จริง แล้วผมเป็นคนที่ถ้ามีอะไรที่เกิดกับคนที่ผมรักมากๆ อย่างดรีม หรือน้องของผม แล้วมันเป็นอะไรที่ผิดต่อเขา ไม่ยุติธรรมกับเขา ผมก็ต้องสู้เพื่อเขา ต้องซัพพอร์ตเขา ทั้งที่ทางแม่ทางครอบครัว ผมรักครอบครัวมาก ผมอยากเข้าข้างครอบครัวตลอด แต่ครอบครัวเรา เรามีสิทธิไม่เห็นด้วยบางอย่างก็ได้ ผมว่ามันเป็นอะไรที่ไม่ควรเป็นเรื่องแปลก เราไม่ได้คิดตรงกันหมดทุกอย่าง ผมคิดว่าสิ่งที่ดรีมทำ เขาไม่ได้ผิดอะไร เขาไม่ได้ขโมย เป็นเด็กไซด์ไลน์  ทำร้ายจิตใจอะไรผมเลย ผมอยากชี้แจง ไม่ได้เข้าข้างอะไรเลย”

เสือ เล่าต่ออีกว่า “ผมกลัวมองหน้าแม่ไม่ติดครับ กลัวครับ แต่ผมคิดว่าทุกอย่างต้องจบด้วยความเข้าใจกัน ต้องมองหน้ากันได้ คุยกันได้ แต่ก่อนเราก็คุยกันได้ ดรีมก็คุยกับแม่ได้ปกติ มันไม่ควรถึงขั้นนี้จริงๆ ที่ห่วงคือตอนนี้เรื่องที่ห่วงคือเรื่องความปลอดภัย เพราะที่สืบมาค่อนข้างน่ากลัวมากจริงๆ ไปไหนต้องระวังตัวตลอด ที่บอกว่าล่าได้ 5 แสนก็น่ากลัวมากจริงๆ ตอนนี้ไปไหนก็ไม่ได้”

ดรีม เผยว่า “ก่อนหน้านี้ทางฝั่งแม่ก็เอ็นดูหนูรักกันปกติ แต่หนูไม่ได้ไปขโมยของเขาค่ะ บ้านเขามีกล้องวงจรปิด ถ้าคิดว่าหนูทำจริงๆ เขาสามารถตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดได้เลย หนูบริสุทธิ์ใจจริงๆ ส่วนคำว่าอีดรีมปอบหยิบอันนี้หมายถึงหนูค่ะ แต่หนูไม่ได้หยิบอะไรเขา ที่เขาโพสต์เขาอาจโกรธหนูหรือเปล่าที่ไปคิดต่างเขา อันนี้หนูก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เพราะเวลาเขาไม่พอใจใคร หรือโกรธใคร เขาก็โพสต์ด่าลงโซเชียลเขาค่ะ เขามีสื่ออยู่ในมือ จะโพสต์ด่าใครก็ได้ เรื่องไซด์ไลน์ก็ไม่จริง แม่หนูก็ไม่สบายใจ เพราะเขาไม่เคยมีข่าวเสียๆ หายๆ ไม่เคยมีเรื่องกับใคร เขาก็รู้สึกไม่ดีค่ะ แม่ไม่ได้ติดต่อคุณกานต์ไปเลยเพราะคุณแม่ไม่รู้จักกับทางคุณกานต์เลย หลังจากที่เขาโพสต์ เราก็มีความรู้สึกว่าคงไม่ต้องไปติดต่ออะไร เพราะเขาคงไม่ฟังเรา เพราะตอนเขาเรียกหนูมาคุย เขายังไม่ฟังอะไรเลยเขาเรียกมาคุยเรื่องงาน เขาจ้างให้หนูเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเขา และขายพวกเสื้อของโลโซ ที่พ่อเสกทำค่ะ ทีนี้หนูก็ทำกับน้องกวาง น้องสาวเสือ แล้วเกิดความไม่ลงตัวกัน เขาก็มีการพูดด่าเราในไลน์ก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเราก็บอกเขาแล้วว่าเรารักเขาเหมือนแม่อีกคน ไม่อยากมีปัญหากับขาเลย และไม่อยากให้เขาคิดร้ายกับหนู เขาบอกเขาไม่เคยคิดร้ายกับใคร มีแต่คนคิดร้ายกับเขา มันก็เริ่มจากตรงนั้น แล้วตกดึกเขาก็มาคุยกับหนูเรื่องการทำงาน เรื่องอะไร ว่าจะทำหน้าที่ไหนยังไง หนูรู้สึกอึดอัดที่ต้องทำงานกับเขา เพราะทำงานกับเขาแล้วเขาคิดร้ายกับเรา คิดไม่ดีกับเราตลอดเลย เราก็บอกไปตรงๆ ว่าเราไม่อยากทำ มีการพูดคุยกันเรื่องส่วนตัว เขาก็รู้สึกว่าเราคิดต่างกับเขา แล้วเขาคิดว่าเราจะไปคอนโทรลเขา และทำให้เสือเปลี่ยนไป”

“หนูไม่อยากให้เขามารับรู้ข่าว หรือคนโจมตีเขาว่าลูกเธอหลานเธอเป็นไซด์ไลน์เหมือนที่เขาพูด เขาเป็นคนแก่ด้วย ไม่อยากให้หนักใจ เรื่องที่เกิดขึ้นตอนแรกไม่อยากให้พ่อแม่ทราบด้วยซ้ำ เพราะไม่เกี่ยวกับเขาเลย และเขาไม่ควรมารับรู้จากคนๆ นึงที่เขามาโจมตีเรา ส่วนที่บอกว่าหนูไม่รวยคือ รถเบนซ์ บีเอ็มมีค่ะ เหมือนที่หนูลงสตอรี่เลยค่ะ ทรัพย์สินทั้งหมดที่ลงสตอรี่ ทั้งนาฬิกาปาเต๊ะ โรเล็กซ์เป็นของบ้านหนู รวมถึงรถยนต์ s class และ ซีรีส์ 7 ค่ะ เป็นของบ้านหนูหมดเลย ยืนยันว่าไม่ได้เป็นไปตามคำอ้าง เราไม่ได้ไปหลอกเขา ขโมยของเขาค่ะ ครอบครัวหนูก็ซัพพอร์ตเรื่องเงินและหลายๆ อย่าง ไม่จำเป็นต้องขโมยเงินเขา”