สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงไนโรบี ประเทศเคนยา เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ว่า กระทรวงการต่างประเทศเคนยา กล่าวถึงการเดินทางเยือนเคนยา ของนายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และมนตรีแห่งรัฐจีน ว่า เป็นครั้ง “ประวัติศาสตร์” นายหวังมีกำหนดหารือกับคณะเจ้าหน้าที่เคนยา ทางด้านความมั่นคง สาธารณสุข ภาวะโลกร้อน และการถ่ายทอดเทคโนโลยีสีเขียว นอกจากนั้นยังจะมีการลงนาม ในข้อตกลงทวิภาคีใหม่อีกหลายฉบับ

เคนยาเป็นจุดหมายที่ 2 ของหวัง ในการเยือนแอฟริกา 3 ประเทศในครั้งนี้ หลังจากเอริเทรีย และก่อนโคโมโรส โดยเอริเทรียเข้าร่วมแผนยุทธศาสตร์เส้นทางสายไหมใหม่ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” หรือ บิอาร์ไอ ของประะานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว

หลายประเทศในแอฟริกาที่เข้าร่วมโครงการบีอาร์ไอ ได้กู้ยืมเงินจีน รวมหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อพัฒนาระบบสาธารณูปโภครองรับ รวมถึงการก่อสร้างทางรถไฟแบบทันสมัย มูลค่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเมืองท่ามอมบาซาในเคนยา

ลินา บีนับดอลเลาะห์ ผู้เชี่ยวชาญความสัมพันธ์ จีน-แอฟริกา ของมหาวิทยาลัยเวคฟอเรสต์ ในสหรัฐ กล่าวว่า การเดินทางเยือนแอฟริกาของหวังเที่ยวนี้ เป็นการส่งสัญญาณให้เห็นถึงผลประโยชน์ของปักกิ่ง ในการรักษาเสถียรภาพในภูมิภาคจะงอยแอฟริกา เพื่อปรับปรุงการเข้าถึงแอฟริกา โดยผ่านท่าเรือริมฝั่งทะเลแดงของเอริเทรีย หนึ่งในประเทศยากจนและถูกโดดเดี่ยวมากที่สุดในโลก

ส่วน ปีเตอร์ คากวันจา อาจารย์ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยไนโรบี กล่าวว่า เป้าหมายการเยือนประเทศหมู่เกาะโคโมโรส ในมหาสมุทรอินเดียของหวัง น่าจะเกี่ยวพันกับผลประโยชน์ทางการค้า เนื่องจากโคโมโรสตั้งอยู่ริมขอบเส้นทางการค้าทางทะเล หรือที่รู้จักกันในประเทศจีนว่า เส้นทางสายไหมทางทะเล (Maritime Silk Road) ซึ่งปักกิ่งมองว่ามีความสำคัญมาก ต่อยุทธศาสตร์การค้า.

เครดิตภาพ – KBC, CGTN Africa, © Eritrean Ministry of Information
เครดิตคลิป – CGTN