เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีของนายมนตรี ใหญ่กระโทก หัวหน้ารปภ. ผู้ต้องหาความผิด ตามหมายจับ ข่มขืนกระทำชำเราฯ เเละ บุกรุกเคหสถานในยามวิกาล หลังนายมนตรีก่อเหตุข่มขืนลูกบ้านสาว บนคอนโดฯย่านเพชรเกษม เขตบางเเค เมื่อคืนวัน 4 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม แจ้งข้อหาเพิ่มอีก 1 ข้อหาคือ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท1(เมทแอมเฟตามีน) และฝากขังเป็นที่เรียบร้อย ส่วนนิติบุคคล ตอนช่วงที่เกิดเหตุนิติฯ ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ และในส่วนของพนักงานรักษาความปลอดภัย หลังจากตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานแล้วพบว่าไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอว่าขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากกลุ่มแรกที่ไปเป็นกลุ่มเพื่อนของผู้เสียหาย ก็ได้มีการแจ้งถึงหลักเกณฑ์และเมื่อทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ก็อำนวยความสะดวก ไม่ได้มีการหน่วงเหนี่ยว เพราะฉะนั้นขณะนี้ในส่วนของนิติบุคคลและพนักงานรักษาความปลอดภัย ยังไม่มีการแจ้งข้อหา ในเรื่องของการตรวจสอบใบอนุญาตของพนักงานรักษาความปลอดภัยนั้น ผบช.น.ได้มอบหมาย พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น.ในฐานะผู้ควบคุมการออกใบอนุญาตบริษัท รปภ.ตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากปัจจุบันพนักงานรักษาความปลอดภัยในกทม.มีจำนวนแสนคนเศษ เอกสารมีจำนวนมาก รวมถึงการจัดเก็บจึงอยู่ระหว่างการตรวจสอบ หากมีความคืบหน้าเรื่องผลการตรวจสอบจะแจ้งผลต่อไป

พล.ต.ต.จิรสันต์ เปิดเผยเพิ่มเติมถึงขั้นตอนการดำเนินการขอใบอนุญาตการเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย ว่า เมื่อบริษัทรักษาความปลอดภัยมายื่นเอกสาร ที่ บช.น. จากนั้นทาง บช.น.จะแจ้งให้บริษัทนำพนักงานไปตรวจสอบประวัติที่กองทะเบียนอาชญากร จากนั้นกองทะเบียนประวัติอาชญากรจะแจ้งผลไปยังบริษัทโดยตรง ซึ่งบริษัทก็จะนำเอกสารทั้งหมดมายื่นที่ บช.น. หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเอกสารทั้งหมด ก่อนส่งให้ผู้บังคับบัญชาอนุญาตอีกครั้ง.