นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ได้ประเมินผลกระทบของโควิดโอมิครอน จะอยู่แค่ในช่วงครึ่งปีแรกปี 65 เท่านั้น และเศรษฐกิจไทยจะทยอยปรับฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดว่าจีดีพีในปี 65 จะอยู่ที่ 3.4% และจะกลับเข้าสู่ระดับก่อนโควิดได้ในต้นปี 66 ซึ่งคาดว่าจีดีพีปี 66 จะขยายตัว 4.7% ตามการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศ และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าไทย 20 ล้านคน ต่อเนื่องจากปี 65 ที่จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5.6 ล้านคน จำนวนนี้มี 90% จะเดินทางเข้ามาในครึ่งปีหลังปี 65 เพราะประเทศเจอโอมิครอนระบาดในครึ่งปีแรก

ทั้งนี้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวแต่มีความเสี่ยงโอมิครอน ทั้งผลกระทบกิจกรรมทางเศรษฐกิจ บริโภคภาคเอกชน การส่งออก เพราะจีดีพีทั่วโลกปรับลดลงจากผลกระทบโอมิครอน และคาดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าในไทยปรับลดจาก 6 ล้านคนเหลือ 5.6 ล้านคนในปี 65 ซึ่งครึ่งปีแรกประเทศไทยได้รับผลกระทบจากมาตรการเทสต์ แอนด์ โก ชั่วคราว เพื่อควบคุมการเดินทางไม่ให้โควิดระบาด จนทำให้เศรษฐกิจไทยปี 65 ได้รับผลกระทบและเป็นเหตุผลที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.64 ปรับลดจีดีพีจาก 3.9% เหลือ 3.4%

ขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจกลับมาดีขึ้น เช่น อุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงการส่งออก เครื่องใช้ไฟฟ้า ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ แต่ยังมีอีกหลายอุตสาหกรรมที่ยังไม่ฟื้นตัวกลับมา เช่น อุตสาหกรรมเกี่ยวข้องกับภาคบริการและนักท่องเที่ยว โรงแรม ขนส่งผู้โดยสาร และร้านอาหาร คาดว่าในบางอุตสาหกรรม บางธุรกิจจะมีแนวโน้มการฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง แต่ธุรกิจโรงแรมอาจต้องใช้เวลานาน ซึ่งกระทบกับรายได้แรงงานนอกภาคเกษตรทำให้กลุ่มภาคการท่องเที่ยวนี้ฟื้นตัวช้าตามไปด้วย

นายสุรัช แทนบุญ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายการเงิน ธปท. กล่าวว่า ในอนาคตถ้าหากเศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัว และโอมิครอนจบในครึ่งปีแรก จะทำให้กนง.มีการพิจารณาปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินที่เหมาะสมต่อไป โดย กนง.คาดครึ่งปีหลังนักท่องเที่ยวจะกลับมา และค่าเงินบาทจะไม่ได้อ่อนค่าเหมือนกับช่วงที่ผ่านมา หรือหากเกิดจากการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่างประเทศ ต้องพิจารณาดูว่ามีผลกระทบกับเศรษฐกิจการเงินไทยอย่างไร