เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ที่หอประชุมกองทัพเรือ พล.ร.ต.อิทธิพัทธ์ กวินเฟื่องฟูกุล โฆษกศูนย์อํานวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) แถลงกรณีเรือ Fin Shui Yuan 2 ลอยตามกระแสน้ำเข้ามาบริเวณพื้นที่รับผิดชอบของ ศรชล.ภาค 2 ห่างจากฝั่ง จ.นครศรีธรรมราช ไปทางทิศตะวันออก ระยะทางประมาณ 80 ไมล์ทะเล ก่อนน้ำทะลักเข้าตัวเรือและจมลงว่า จากการตรวจสอบไม่พบชื่อเรือ, เลขเรือ และเอกสาร, อุปกรณ์เดินเรือทั้งหมดบนสะพานไม่สามารถใช้งานได้ มีเพียงไฟแบตเตอรี่ที่ทํางานได้

พล.ร.ต.อิทธิพัทธ์ ชี้แจงว่าสำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ ถ้าเกินกําหนดระยะเวลา 15 วัน แล้วยังไม่มีเจ้าของเรือมาแสดงตัวและกู้เรือ กรมเจ้าท่า อาจพิจารณาออกคําสั่งกู้เรือตาม พ.ร.บ.เดินเรือในน่านน้ำไทย ขณะที่ ศรชล.และหน่วยงานเกี่ยวข้องได้ตั้งคณะทํางานสืบสวนสอบสวนที่มาที่ไปของเรือดังกล่าวต่อไป

“กระแสข่าวที่ออกมาว่า เรามีเจตนาที่จะทิ้งเรือหรือทำให้เรือจม ไม่เป็นความจริง ไม่เช่นนั้นเราคงไม่นำเรือหลวงตาปีออกไปลากจูงเข้ามา” โฆษก ศรชล. กล่าว

เมื่อถามถึงการสืบค้นที่มาของเรือจะดำเนินการอย่างไร โฆษก ศรชล. กล่าวว่า กองทัพเรือได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบโดย ศรชล.ภาค 2 เร่งดำเนินการทุกทางโดยเร็ว และรายงานให้รับทราบต่อไป แต่จะเร็วแค่ไหนยังตอบไม่ได้

เมื่อถามต่อว่า เศษอาหารและเศษขยะบนเรือบ่งบอกอะไรได้บ้าง โฆษก ศรชล. กล่าวว่า ศรชล.จะนำไปเป็นข้อมูลเพื่อขยายผลต่อไป ซึ่งเรือที่ปรากฏไม่มีฐานข้อมูล มีแต่ชื่อคล้ายๆ กัน ทั้งนี้เราไม่ทิ้งประเด็นว่าเป็นเรือผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะเรากลัวเป็นเรือผิดกฎหมาย จึงพยายามลากเข้าฝั่ง แต่ยังไม่ทันได้ลากเรือก็จมเสียก่อน.