เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ผู้เชี่ยวชาญชาวจีนกล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 10 ม.ค.2565 ว่า เป็นครั้งแรกที่พบว่าเคส โอมิครอน ในเทียนจินแพร่กระจายไปตามชุมชนต่างๆ ในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งโอมิครอนแพร่กระจายได้ง่าย ในขณะเดียวกันก็ตรวจจับเชื้อตัวนี้ได้ยากด้วย
จาง โป๋ลี่ อธิการบดีมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเทียนจิน (Tianjin University of Traditional Chinese Medicine) กล่าวว่า “เราจำเป็นต้องตื่นตัวในระดับสูงเกี่ยวกับโอมิครอนนี้ เนื่องจากผู้ป่วยอายุน้อยมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากการแพร่ระบาดของสายพันธุ์นี้ในเทียนจิน”
“การระบาดระลอกใหม่ของสายพันธุ์ โอมิครอน เสมือนเป็นคลื่นสึนามิ โดยแพร่กระจายในประเทศแถบยุโรปและอเมริกาได้อย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นว่าสายพันธุ์ โอมิครอน แพร่เชื้อได้มากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ” จางกล่าว
อัตราการติดเชื้อและกลไกการหลบหนีภูมิคุ้มกันของ โอมิครอน ยังคงอยู่ระหว่างการวิจัย โดยการป้องกันไม่ให้โอมิครอน แพร่กระจาย นับเป็นเป้าหมายระดับโลกในขณะนี้ เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยจาก โอมิครอน เพิ่มขึ้นทั่วโลก
“เราจำเป็นต้องเรียนรู้จากโรคระบาดแต่ละครั้งและหาวิธีแก้ปัญหาใหม่ โดยเคสจากเทียนจิน จะให้ข้อมูลเชิงลึกที่จะต่อสู้กับสายพันธุ์ โอมิครอน ได้” จาง แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
จาง แนะนำว่า จากข้อมูลที่มีในปัจจุบัน แสดงให้เห็นว่าเด็กและวัยรุ่น อาจเป็นเป้าหมายที่เปราะบางของ โอมิครอน เนื่องจากอัตราการฉีดวัคซีนในกลุ่มนี้ต่ำ
“อย่างไรก็ตาม การศึกษาแสดงให้เห็นว่าสายพันธุ์นี้มีความรุนแรงน้อยกว่า เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่มีอาการ ปอดของผู้ป่วยได้รับความเสียหายน้อยลง และจำนวนผู้ป่วยที่รุนแรงก็ต่ำลงด้วย ซึ่งเรากำลังติดตามอย่างใกล้ชิดสำหรับการระบาด โอมิครอน ในเทียนจิน” จางกล่าวเพิ่มเติม
เทียนจินตรวจพบว่ามีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ 2 รายแรกจากเชื้อ โอมิครอน ในการระบาดระลอกใหม่ โดยทั้งหมดอยู่ในเขตจินหนาน (Jinnan) ซึ่งเป็นผลให้เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา มีการระดมตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทั่วทั้งเมือง
ตามรายงานของหน่วยงานท้องถิ่นเมื่อวันที่ 10 มกราคม ระบุว่ายังมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เกิดจากการระบาดในพื้นที่จีนเอง อีก 2 ราย ในเมืองอันหยาง มณฑลเหอหนาน ทางตอนกลางของจีน โดยได้รับการยืนยันว่าเป็นสายพันธุ์ โอมิครอน
แหล่งข้อมูล:
