เปิดศักราชปีเสือมาไม่ถึงครึ่งเดือน ไม่น่าเชื่อสังคมไทยเจอวิกฤติซ้อนวิกฤติทยอยเรียงคิวเข้ามาปะทะชนิดแทบไม่ได้หยุดหายใจ

“เรื่องแรก” น้ำมันแพงที่เดือดร้อนถ้วนหน้า ส่งผลกระทบกับต้นทุนภาคการผลิต-การขนส่ง ท้ายที่สุดสินค้าต่างๆต้องปรับขึ้นราคายากจะหลีกเลี่ยง

“เรื่องสอง” โควิดระบาดระลอก 5 อัตราการติดเชื้อโอมิครอนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วฉุดการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ศบค.ประเมินกรณีเลวร้ายสุดๆ เดือน ก.พ.อาจเห็นตัวเลขคนติดเชื้อทะลุหลัก 3 หมื่นคนต่อวัน

“เรื่องสาม” หนึ่งในปัจจัยสี่ อาหาร ในกลุ่มหมู-ไก่-ไข่ พาเหรดขึ้นราคา ล่าสุดกรมปศุสัตว์ ออกมายอมรับ ตรวจเจอเชื้อโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมู หรือโรค ASF ที่โรงฆ่าหมูที่นครปฐม

พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวลากปัญหาหมูเข้าสภาฯ

สอดคล้องกับก่อนหน้านี้ที่ พรรคเพื่อไทย ออกมาแฉเรื่องโรค ASF ระบาดในหลายพื้นที่ทั่วประเทศโดย เฉพาะ จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่เลี้ยงหมูมากสุดในประเทศ ทำให้จำนวนหมูหายไปจากระบบนับล้านตัว

“เรื่องนี้เป็นเรื่องหมูที่ไม่ใช่หมู เพราะจะเป็นเรื่องล้มรัฐบาลได้รัฐบาลชุดนี้ปล่อยปละละเลย ก่อความเสียหายต่อบ้านเมืองอย่างใหญ่หลวง เศรษฐกิจฐานรากพังพินาศ เพราะเป็นโรคระบาดสัตว์ รัฐบาลชุดนี้แปลก เจอโรคระบาดแล้วทำงานไม่เป็น ล้มเหลวผิดพลาดตลอด…ขอประกาศเลยว่าเรื่องนี้จะอยู่ในญัตติของการอภิปรายทั่วไปตาม ม.152 และยื่นร้อง ป.ป.ช.เพื่อถามหาความรับผิดชอบทางการเมือง” นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวช่วงหนึ่งระหว่างแถลงข่าว

เอาเป็นว่านาทีนี้ ฟันธงล่วงหน้าในวิกฤติซ้อนวิกฤติเรื่องโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมูคือสึนามิลูกใหญ่ที่กำลังถาโถมเข้าสั่นคลอนเสถียรภาพ รัฐนาวาภายใต้การถือหางเสือของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เนื่องด้วยตามขั้นตอนปฏิบัติประเทศที่พบโรค ASF ต้องแจ้ง องค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) จากนั้นไทยต้องถูกขึ้น “ตัวแดง” ห้ามส่งออกหมูไปขาย ต่างประเทศ และต้องฆ่าหมูรัศมี 3 กิโลเมตรในทุกจุดที่พบโรคระบาด

ส่งผลกระทบโดยตรงต่อห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) สร้างความเสียหายให้อุตสาหกรรมหมูไทยทั้งระบบมูลค่าหลายแสนล้านบาท

สุ่มเสี่ยงนำไปสู่เหตุการณ์ ฟาร์มหมูในประเทศล่มสลาย!

ทั้งหมดทั้งมวลมันสะท้อนให้เห็นภาพ หนทางเบื้องหน้าก่อนรัฐบาลครบวาระต้นปี 2566 “กัปตันตู่” กำลังนำพารัฐนาวาที่บรรทุกคนไทยทั้งประเทศไปผจญสึนามิเศรษฐกิจครั้งใหญ่

ครม.ไฟเขียวงบกลาง 574 ล้านบาทเยียวยาเกษตรกรเลี้ยงหมู

อย่าลืมว่าในระบบการเมืองทั่วโลกเศรษฐกิจกับการเมืองมีความสัมพันธ์ที่แยกกันไม่ออกในลักษณะแปรผันตรง (direct variation)

หากเศรษฐกิจเข้มแข็ง ส่งผลให้การเมืองมีเสถียรภาพทว่าในมุมกลับหากเศรษฐกิจเกิดปัญหา ผู้คนกินไม่อิ่มนอนไม่หลับ ท้ายที่สุดจะกลายเป็นเชื้อไฟรอวันระเบิดลามไป กระทบเสถียรภาพรัฐบาล

รูปปั้นนรสิงห์ที่ระเบียงด้านหน้าชั้น 2 ของตึกไทยคู่ฟ้า เสริมสิริมงคล อำนาจบารมี ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย

ในจังหวะที่ท่านผู้นำอัญเชิญ พญาครุฑ-รูปปั้นนรสิงห์ เข้าตึกไทยคู่ฟ้าเพื่อเสริมสิริมงคล อำนาจบารมี ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย

สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการเร่งด่วนจริงๆนาทีนี้คือ ปลดล็อกระบบราชการรวมศูนย์ที่ยึดติดระเบียบ ไม่ยืดหยุ่น ขั้นตอนเยอะทำให้การแก้ปัญหา หลายเรื่องเป็นไปด้วยความล่าช้า

หัวใจสำคัญนาทีนี้รัฐบาลต้องปรับกระบวนการทำงาน หากใช้วิธีปกติ ไปทำงานเร่งด่วนที่มีความเป็น ความตายของคนทั้งชาติเป็นเดิมพันมันไม่สอดคล้องกัน!

ท้ายที่สุดหากรัฐบาลเกาไม่ถูกที่คัน ปัญหาหมู จะเป็นสึนามิลูกใหญ่ที่ถาโถมเข้าใส่ตึกไทยคู่ฟ้า เขย่าบัลลังก์ พล.อ.ประยุทธ์ แน่นอน.