นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ที่กำลังระบาดรุนแรงอยู่ในขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการรถโดยสาร (รถเมล์) ขสมก. อยู่ที่ 550,000 คนต่อวัน เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเทศกาลปีใหม่ 65 ช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.64 ที่มีการเปิดประเทศและมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศลดลงต่อเนื่อง มีผู้โดยสารอยู่ที่ 600,000 คนต่อวัน
ซึ่งขณะนี้พบว่ามีผู้โดยสารใช้บริการลดลงประมาณ 10% หรือประมาณ 50,000 คนต่อวัน ส่วนหนึ่งมาจากการแพร่ระบาดดังกล่าว ทำให้ผู้โดยสารเดินทางน้อยลง รวมทั้งมาตรการของแต่ละหน่วยงานหรือบริษัทที่ให้พนักงานเน้นทำงานที่บ้าน (Work from Home) ลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดด้วย

นายกิตติกานต์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้ ขสมก. รวบรวมรายชื่อพนักงานที่จำเป็นต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่4 ซึ่ง ขสมก. ถือเป็นด่านหน้าที่ต้องพบกับประชาชนจำนวนมาก เนื่องจากต้องให้บริการรถเมล์ เบื้องต้น ขสมก. จะเสนอขอรับวัคซีนจำนวนพนักงานที่มีทั้งหมดประมาณ 13,000 คน ในจำนวนนี้จะมีทั้งพนักงานขับรถ พนักงานเก็บค่าโดยสาร และพนักงานที่ทำงานตามสำนักงาน เมื่อได้ข้อสรุปแล้ว ขสมก. จะเสนอรายชื่อให้กับกระทรวงคมนาคมเร็วที่สุด ก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนต่อไป ทั้งนี้เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นในการใช้บริการรถเมล์

ขสมก. เน้นย้ำมาตรการสาธารณสุขป้องกันโควิด-19 อย่างต่อเนื่องและเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็น สวมหน้ากากอนามัยขณะปฏิบัติงาน ขณะที่ผู้ใช้บริการต้องสวมหน้ากากอนามัยขณะใช้บริการเช่นกัน การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย จัดให้มีเจลแอลกอฮอล์บริการ ทำความสะอาดฆ่าเชื้อภายในรถเมล์เป็นประจำก่อนที่ให้บริการ ส่วนมาตรการจัดที่นั่งเว้นระยะห่าง (Social Distancing) นั้น ขณะนี้ต้องรอมาตรการจากทางรัฐบาลในการคุมเข้มเรื่องดังกล่าว หากมีการประกาศเรื่องนี้ ทางกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ที่กำกับดูแลรถโดยสารสาธารณะจะออกประกาศกรมฯ แล้ว ขสมก. นำไปปฏิบัติให้สอดคล้องในการให้บริการรถเมล์ต่อไป