เมื่อวันที่ 13 ม.ค. นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประสานงานส่วนกลาง เปิดเผยว่าในช่วงโค้งสุดท้ายของการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.ชุมพร และเขตเลือกตั้งที่ 6 จ.สงขลา พบพรรคการเมืองบางพรรคใช้อำนาจในการแทรกแซงเจ้าหน้าที่ของรัฐในพื้นที่ทั้ง 2 เขตเลือกตั้ง เพื่อบังคับข่มขู่เจ้าหน้าที่รัฐและครอบครัวให้เลือกผู้สมัครส.ส.ของพรรคของตัวเอง ส่วนกรณีที่มี ส.ส.ซึ่งเป็นกรรมการบริหารพรรคของพรรคหนึ่งขึ้นปราศรัยที่ จ.สงขลา แล้วมีการปราศรัยในลักษณะสัญญาว่าจะให้ในทำนองหากเลือกผู้สมัครของเขาในวันข้างหน้า จะมีการดูแลประชาชนในเรื่องเงินทองเพราะมีเงิน ซึ่งเรื่องดังกล่าวคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สามารถสอบสวนได้ทันที เพราะผิดกฎหมายชัดเจนแต่หากไม่ผิดแสดงว่าในวันข้างหน้า สามารถพูดในลักษณะว่าจะให้เงินเพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้

“การที่มีคนปราศรัยว่าให้เลือกผู้สมัครที่มีชาติตระกูลดีและมีเงินนั้น ประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ 6 จ.สงขลา มีความรู้สึกกับเรื่องนี้ อย่างมาก เพราะการใช้เรื่องชาติตระกูลและความร่ำรวยมาพูดเสมือนเป็นการดูถูกประชาชนและแบ่งชนชั้น นี่คือความปวดใจของประชาชน ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น ผมเชื่อลูกชาวบ้านอย่างนายชวน หลีกภัย ไม่มีทางได้เป็นส.ส. และไม่มีทางได้เป็นนายกรัฐมนตรีส่วนคนร่ำรวยที่บอกว่าเข้ามาจะไม่โกง ก็มีมากมายที่เข้ามาแล้วโกงและสุดท้ายไม่มีแผ่นดินอยู่ อย่างไรก็ตาม พรรคประชาธิปัตย์ยังมั่นใจในเขตเลือกตั้งที่ 6 จ.สงขลา และเขตเลือกตั้งที่ 1 จ.ชุมพร ช่วงสุดท้ายของการรณรงค์หาเสียง และบุคลากรของพรรคยังลุยเต็มที่จนถึงเวลา 18.00 น. ของวันที่ 15 ม.ค.” นายราเมศ กล่าว.