นายกฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด หรือ อาวดี้ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 และความท้าทายธุรกิจจากสถานการณ์เซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลนทั่วโลก ภายใต้กลยุทธ์เขย่าพอร์ต การปรับราคาให้จับต้องได้ การเป็นผู้นำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าพรีเมียม การนำยนตรกรรมตระกูลอาร์เอส เข้ามาสร้างความเร้าใจให้ตลาด คุณภาพมาตรฐานการบริการหลังการขาย และการสนับสนุนของออดี้ เอจี ส่งผลทำให้ยอดขายออดี้ในทุกเซกเมนต์ ในปี 64 โตเกินความคาดด้วยยอดขาย 1,308 คัน หรือเพิ่มขึ้น 30%

โดยยนตรกรรมพรีเมียมสปอร์ตสมรรถนะสูงตระกูลอาร์เอสที่ได้ชื่อว่าเป็นซูเปอร์คาร์ราคาจับต้องได้ สามารถสร้างปรากฏการณ์สะท้อนภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งขึ้นของแบรนด์ชัดเจน คือมียอดจำหน่ายคิดเป็น 10% ของยอดขายรวม หรือ ยอดขายทุกๆ 10 คัน จะเป็นรถในตระกูลอาร์เอส 1 คัน ขณะที่ เอ5 และคิว3 และ ทีที คูเป้ เป็น 3 รุ่นฮอตที่ได้รับความนิยมสูงต่อเนื่อง โดยมียอดขายปี 64 รวมมากกว่า 70% ของยอดขายรวม ส่วนรถไฟฟ้าทั้ง 3 รุ่นนั้นทำยอดขายได้น่าพอใจ โดยขณะนี้ได้ส่งมอบให้ลูกค้าในประเทศไทยไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 4,000 คัน

ส่วนแผนการดำเนินงานปี 65 จะทยอยนำเข้ามาอีกกว่า 10 รุ่น รวมถึงรถในตระกูลอาร์เอส เพื่อสร้างสีสัน และเป็นทางเลือกตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ นอกจากนี้ยังมีแผนจะมีการนำเข้ารถพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ ล่าสุดเข้ามาเสริมทัพ คาดว่าในปีนี้มีรถทุกเชกเมนต์ให้ลูกค้าได้เลือก ทางด้านโชว์รูม และศูนย์บริการมีแผนที่จะขยายการบริการให้คลอบคลุมทั่วประเทศ โดยจะมีการเปิดดีลเลอร์เพิ่มอีกอีกอย่างน้อย 2 แห่ง เพื่อรองรับการเติบโตของลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ และภาคเหนือ

ในส่วนของแคมเปญส่งเสริมการขายในแต่ละช่วงจะมีการทำงานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจต่างๆ ทั้งลีสซิ่ง ธนาคาร แพลตฟอร์มชอปปิงออนไลน์ และอื่นๆ เพื่อจัดแคมเปญพิเศษมาให้ลูกค้าได้เข้าถึงแบรนด์ออดี้ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย