สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ว่าสำนักพระราชวังบักกิงแฮมเผยแพร่แถลงการณ์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เรื่องการโอนย้ายพระยศทางทหารและหน่วยงานการกุศลทุกแห่ง ที่อยู่ภายใต้พระอุปถัมภ์ของเจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก กลับคืนสู่สมเด็จพระราชนินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร


ขณะเดียวกัน ดยุกแห่งยอร์กจะยังทรงงดการปฏิบัติพระกรณียกิจ ทรงสละฐานันดรศักดิ์ชั้น “เจ้าฟ้า” และจะทรงต่อสู้คดีความที่กำลังดำเนินอยู่ “ในฐานะสามัญชนคนหนึ่ง”


ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของสำนักพระราชวังแห่งสหราชอาณาจักร เกิดขึ้นหลังศาลในนครนิวยอร์กมีคำพิพากษา เมื่อวันพุธ ปฏิเสธคำร้องของเจ้าชายแอนดรูว์ ซึ่งทรงมีพระประสงค์ให้ผู้พิพากษาตีตกคำฟ้องคดีแพ่ง ที่น.ส.เวอร์จิเนีย จูฟเฟร กล่าวหาพระองค์ทรงล่วงละเมิดทางเพศต่อเธอ เมื่อครั้งเธอมีอายุเพียง 17 ปี


ทั้งนี้ ผู้พิพากษาให้ความเห็นว่า จูฟเฟร ซึ่งปัจจุบันอายุ 38 ปี สามารถดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายได้ต่อไป ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบอย่างหนักต่อสภาพจิตใจของเธอ ซึ่งตกเป็นเหยื่อของการค้าประเวณีจากการล่อลวงของนายเจฟฟรีย์ เอปสตีน นักธุรกิจและไฮโซชาวอเมริกัน จำเลยร่วมคนสำคัญในคดีนี้ แต่เสียชีวิตไปแล้ว หลังกระทำอัตวินิบาตกรรม ภายในเรือนจำ เมื่อปี 2562


เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก ปัจจุบันทรงมีพระชันษา 61 ปี ทรงเป็นพระราชบุตรพระองค์ที่ 3 ในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 กับเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES