สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ว่าสำนักงานสถิติแห่งชาติของสหรัฐรายงาน ดัชนีราคาผู้บริโภค ( ซีพีไอ ) ไม่รวมสินค้าอาหารสดและเชื้อเพลิง ซึ่งมีความผันผวนสูง พุ่งชึ้น 7.0% เมื่อเทียบแบบรายปี ในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา เป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2525
US inflation jumps at its fastest pace in nearly 40 years last month, 7 percent spike from a year earlier pic.twitter.com/uWxquiur15
— TRT World Now (@TRTWorldNow) January 13, 2022
ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต ( พีพีไอ ) ซึ่งปรับตัวสูงขึ้น 9.7% เมื่อเทียบแบบปีต่อปี ในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับสูงสุด นับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2553
ด้านนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ( เฟด ) ส่งสัญญาณเตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อยับยั้งการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ และตรึงราคาสินค้า โดยยืนยันว่า เศรษฐกิจในภาพรวมจะไม่ได้รับผลกระทบ
Jerome Powell, the Federal Reserve chair, told lawmakers on Tuesday that the central bank is prepared to raise interest rates to manage inflation within the rapidly growing economy. https://t.co/QIWY3nC6sP pic.twitter.com/qfEYDnOVCI
— The New York Times (@nytimes) January 11, 2022
ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวถึงภาวะเงินเฟ้อที่สหรัฐกำลังเผชิญ ว่าเป็นความท้าทายระดับเดียวกับที่นานาประเทศกำลังประสบเช่นกัน ซึ่งเป็นไปตามกลไกที่ต้องเกิดขึ้น หลังเศรษฐกิจผ่านพ้นแรงเสียดทานจากการแพ่ระบาดครั้งใหญ่ของโรคโควิด-19
ทั้งนี้ ผู้สันทัดกรณีเชื่อว่า การที่อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐเพิ่มขึ้นสูงสุด นับตั้งแต่ยุคของประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน เป็นผลจากความต้องการสินค้าและบริการขั้นพื้นฐานเพิ่มขึ้น ด้วยแรงผลักดันจากงบประมาณเยียวยาระลอกใหม่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ในเวลาเดียวกัน ปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทานซึ่งยังคงมีอยู่ ส่งผลกระทบให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นหลายอย่างมีราคาแพงขึ้น และสถานการณ์อาจดำเนินอยู่นานกว่าที่มีการคาดการณ์.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES