สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ว่ากระทรวงข่าวสารของเมียนมาเผยแพร่แถลงการณ์ แสดงความเชื่อมั่นว่า กัมพูชาจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ประธานสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ประจำปีนี้ “ได้ด้วยความยุติธรรม” และรัฐบาลทหารเมียนมาจะไม่มีทางเป็นฝ่ายอ่อนข้อให้กับแรงกดดันจากต่างประเทศ ซึ่งยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เกี่ยวกับการเยือนกรุงเนปิดอว์ของสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางการเมียนมายืนยันว่า “ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี” หลังนายไซฟุดดิน อับดุลเลาะห์ รมว.การต่างประเทศมาเลเซีย วิจารณ์ภารกิจดังกล่าวของสมเด็จฮุน เซน “ควรปรึกษาหารือกับอาเซียนบ้าง” และโดยส่วนตัวเขามองการเยือนเมียนมาของสมเด็จฮุน เซน “ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใด”
ขณะที่ นายอับดุล คาเดียร์ ไจลานี ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการเอเชีย แปซิฟิก และแอฟริกา ของกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย กล่าวว่า การคลี่คลายสถานการณ์ในเมียนมา เป็นภารกิจที่อาเซียนต้องดำเนินการร่วมกัน อินโดนีเซียหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในฐานะที่กัมพูชาอยู่ในตำแหน่งประธานอาเซียนประจำปีนี้ จะดำเนินการอย่างเคร่งครัดและจริงจัง ตามฉันทามติ 5 ข้อ ที่บรรลุร่วมกัน เมื่อเดือน เม.ย.ปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวแห่งชาติลาวรายงานว่า นายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรีลาว และนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม สนับสนุนบทบาทและความพยายายามของกัมพูชา เพื่อการคลี่คลายวิกฤติการณ์ในเมียนมา บนพื้นฐานของฉันทามติ 5 ข้อที่อาเซียนกำหนดร่วมกัน
ท่าทีดังกล่าวของมาเลเซีย อินโดนีเซีย ลาว และเวียดนาม เกิดขึ้นในเวลาเดียวกับที่กัมพูชา “เลื่อน” กำหนดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ที่เมืองเสียมราฐ หรือเสียมเรียบ ระหว่างวันที่ 18-19 ม.ค. นี้ โดยให้เหตุผลเกี่ยวกับ “ความยากลำบากในการเดินทางระหว่างสมาชิก” แต่แหล่งข่าวหลายคนให้ข้อมูลว่า สมาชิกอาเซียนหลายประเทศต้องการ “ประท้วงทางการทูต” ต่อการที่สมเด็จฮุน เซน “ดำเนินการฝ่ายเดียว” เรื่องเมียนมา.
เครดิตภาพ : REUTERS
