เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ที่กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข และ นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ ร่วมกันแถลงข่าวแพทย์แผนไทยรวมพลังทั้งแผ่นดินสู้ภัยโควิดว่า จากสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา ทำให้มีการพัฒนายาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร เพื่อรักษาในกลุ่มผู้ติดเชื้อพบว่าได้ผลดี แพทย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งประชาชนให้การรับยอมรับและมีการจัดหามาใช้กินเป็นยาประจำบ้าน ซึ่งจากนี้ สธ.จะส่งเสริมสมุนไพรไทยมากขึ้น นอกจากนี้ในกลุ่มผู้ติดเชื้อโควิด ประมาณ 30% ที่มีอาการหลังป่วยหรือ Long Covid จะใช้ตำรับยาสมุนไพรไทยในการดูแลเช่นเดียวกัน รวมถึงเตรียมส่งเสริมให้มีการใช้สมุนไพรเด่นภายในจังหวัด มาอยู่ในเมนูอาหาร กินเสริมภูมิคุ้มกัน หรือเรียกว่าขับเคลื่อนนโยบายกินอาหารเป็นยา

นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทย กล่าวว่า 2 ปีที่มีการระบาดของโรคโควิด แพทย์แผนไทยได้พิสูจน์แล้วว่า สารเอนโดรกาโฟไลน์ ในยาฟ้าทะลายโจร ปริมาณ 180 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลา 5 วัน สามารถรักษาผู้ป่วยโควิดได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามเราพบว่าผู้ป่วยโควิดที่หายป่วยมีอาการ Long Covid ประมาณ 30% ของจำนวนผู้ป่วย ยกตัวอย่างปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ วิตกกังวล มีไข้ อ่อนล้า มึน งง วิงเวียน นอนไม่หลับ ท้องอืด ท้องเสีย หายใจไม่อิ่ม ซึมเศร้า ซึ่งยังไม่มีแนวทางการรักษาเฉพาะ

“ดังนั้นแพทย์แผนไทยฯ จะได้นำศาสตร์ของแพทย์แผนไทยมารักษา อาทิ ตำรับยาหอมนวโกฐ ยาห้าราก ยาประสะมะแว้ง ยาสหัสธารา เป็นต้น ซึ่งได้ผลดี ขณะนี้มีการเผยแพร่ความรู้ให้กับแพทย์แผนไทย ทั่วประเทศ 2,000 คน ขณะเดียวกันจะออกหน่วยแพทย์แผนไทยเคลื่อนที่ ดูแลผู้ป่วย ซึ่งรัฐบาลอนุมัติงบฯ ให้กรมแพทย์แผนไทยฯ ดูแลผู้ป่วยอาการลองโควิด 246 ล้านบาท ดูแลผู้ป่วยลองโควิดอย่างน้อย 400,000 คน ในปี 2565 เริ่มคิกออฟวันแรกวันที่ 18 ม.ค. ที่ห้างเซ็นทรัล จ.ลำปาง และมีแผนเคลื่อนที่ทุกภูมิภาค” นพ.ยงยศ กล่าว

นพ.ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทย กล่าวว่า สำหรับอาการลองโควิดที่พบบ่อยคือการอักเสบ เกิดความเสียหายกับอวัยวะต่างๆ จะใช้ตำรับยาธาตุบรรจบมาใช้ในการบำรุง ฟื้นฟูธาตุในร่างกายให้กลับมาปกติ ส่วนกรณีอาการลองโควิดที่มีผลต่อระบบประสาทแปรปรวน จะใช้ตำรับยานวโกฐ มาช่วยเรื่องการไหลเวียนโลหิต และมีน้ำมันกัญชาตำรับอาจารย์เดชามารักษาในการรักษาแก้อาการปวดศีรษะ นอนไม่หลับ ทั้งนี้แต่ละคนจะมีปัญหาแตกต่างกัน ตำรับยาที่ใช้แตกต่างกัน โดยหลักๆ ใช้เวลาในการรักษาประมาณ 3 เดือนขึ้นไป

เมื่อถามถึงการใช้ยาฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วยโควิด ที่ผ่านมา นพ.ขวัญชัย กล่าวว่า การใช้ฟ้าทะลายโจรในการรักษาถือว่าได้ผลดี โดยมีอัตราการใช้ใน รพ.ประมาณ 300,000 ราย คิดเป็นประมาณ 2-3 ล้านเม็ด ส่วนที่ประชาชนซื้อมาใช้เอง คาดมากกว่านี้ประมาณ 2-3 เท่าของที่ใช้ใน รพ.จากการติดตามผลไม่พบว่ามีผลข้างเคียงอันตรายต่อตับ และไต ช่วยประหยัดงบประมาณในการรักษานับ 1,000 ล้านบาท ส่วนตำรับยารักษาอาการ Long Covid ถ้าคิดตามจำนวนผู้ที่มีอาการเหล่านี้ราวๆ 30% จำนวนผู้ป่วยก่อนหน้านี้จะอยู่ที่ประมาณ 700,000 คน หากคิดแค่อัตราการรักษารายละ 500 บาท เท่ากับว่าช่วยเสริมได้ดี ซึ่งล่าสุดรัฐบาลจัดสรรงบฯ ปี 65 วงเงิน 246 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับดูแลอาการ Long Covid ประมาณ 400,000 ราย

“ท่านนายกฯ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ท่าน รมช.สธ. นายสาธิต ให้การสนับสนุนและส่งเสริมการใช้สมุนไพรไทยในการต่อสู้กับโรคโควิด ซึ่งก็เห็นผลแล้วว่าได้ผลดี และมีความปลอดภัย จากเดิมที่คนติดภาพสมุนไพรถูกลักลอบนำสารอันตราย เช่น สเตียรอยด์ไปผสมทำให้กลัว แต่วันนี้เรามีโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐาน GMP ทำให้สมุนไพรไทยมีความปลอดภัย เป็นที่ยอมรับมากขึ้น” นพ.ขวัญชัย กล่าว.