เมื่อวันที่ 14 ม.ค. เวลา 18.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำทีม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นายสุชาติ ชมกลิ่น กรรมการบริหารพรรคฯ ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อม เขต 6 สงขลา, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง,พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี, นางสาวพัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ โฆษกพรรคฯ, นางสาวกานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ส.ส.พปชร. เขต 1 กทม. และทีม ส.ส. อีกกว่า 20 คน ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่หาเสียงช่วย นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ (น้องโบ๊ต) ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขต 6 สงขลา เบอร์ 3
สำหรับการปราศรัยครั้งนี้เป็นเวทีใหญ่ครั้งสุดท้ายก่อนจะมีการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ในวันอาทิตย์ที่ 16 ม.ค. 2565 ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้มีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก เนื่องจากผู้สมัครที่พรรค ส่งเป็นคนรุ่นใหม่ ที่มีความรู้ความสามารถ เข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และเป็นตัวแทนของประชาชนได้อย่างแท้จริง ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้ เป็นอีกเวทีครั้งสำคัญให้ประชาชนได้มีโอกาสรับฟังนโยบายและทิศทาง ของการเข้าไปเป็นตัวแทนในพื้นที่สงขลา และมีความเข้มงวดในการใช้มาตรการดูแล คัดกรอง ตามมาตรการสาธารณสุขเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดภายใต้มาตรการป้องการโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
โดยก่อนการปราศรัยบรรยากาศทั่วไป มีประชาชนทยอยเดินทางมาจับจองพื้นที่ที่ด้านหน้าเวทีปราศรัยภายในโรงเรียนสะเดาขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์ ต.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ตั้งแต่ก่อนเวลา 18.00 น. ผ่านการตรวจคัดกรอง เครื่องวัดอุณหภูมิที่ได้มาตรฐาน พร้อมการเว้นระยะห่างก่อนการเดินเข้าด้านใน ซึ่งก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ขึ้นเวทีปราศรัยก็ได้รับเสียงปรบมือจากพี่น้องประชาชนที่ได้มีการนำดอกไม้มามอบให้กำลังใจพรรคพลังประชารัฐ โดย พล.อ.ประวิตร ได้พูดกับพี่น้องประชาชนถึงแนวทางนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องการให้มีความเป็นอยู่ที่ดี เพราะถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการสร้างคนสร้างชาติในอนาคต ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องที่ยาก แต่ที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐก็ได้มีผลงานที่เป็นรูปธรรมให้เห็นแล้วทั้งเรื่องของรัฐสวัสดิการ โครงการคนละครึ่ง และที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ คือการคมนาคมทางรถไฟรางคู่ที่จะเป็นการเชื่อมต่อเศรษฐกิจสู่ภาคใต้
“วันนี้ มาขึ้นเวทีภาคใต้เป็นครั้งที่ 5 สำหรับสงขลา ถือป็นครั้งที่ 2 ชาวสะเดามากันจำนวนมากให้กำลังใจน้องโบ๊ตเบอร์ 3 อย่างมืดฟ้ามัวดิน เป็นที่น่าชื่นชมอย่างมาก พรรคฯ เรามาเพื่อรับใช้ประชาขน ขอให้มั่นใจว่าพรรคไม่ได้เป็นพรรรคเฉพาะกิจ เราจะเป็นพรรคที่เข้มแข็งทำงานเพื่อชาติ เพื่อประชาชนและสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของคนไทยทุกคน เราจะร่วมมือร่วมใจกันเป็นหนึ่งเดียว ผมขอฝากพรรคฯ ไว้กับชาวสะเดา ด้วยนะครับที่ วันที่ 16 มกราคมนี้ อย่างลืมไปลงคะแนนให้เบอร์ 3 เพราะฉะนั้นเราหวังอย่างยิ่งว่า ทุกท่านจะร่มมือร่วมใจคะแนนให้น้องโบ๊ตที่เป็นลูกหลานชาวสะเดาโดยแท้จริง” พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำในตอนท้าย
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นเวทีปราศัยท่ามกลางเสียงเชียร์และดอกไม้ให้กำลังใจอย่างล้นหลามว่า พี่น้องชาวสะเดาที่เคารพรัก วันนี้ถือว่าเป็นวันสำคัญของพี่น้องชาวสะเดา ทุกคนมาร่วมกันอยู่ตรงนี้เพื่อให้กำลังใจน้องโบ๊ต ส.ส หลายท่านมาช่วยหาเสียง ตนเองได้ปราศรัยมาหลายเวทีทั่วประเทศ แต่ไม่เคยเห็นเสียงมหาชนเท่านที่พี่น้องชาวสะดาออกมาอย่างเนืองแน่น เห็นแล้วอดดีใจแทนน้องโบ๊ตไม่ได้ ทั้งนี้ตนอยากจะกล่าวถึงวันที่ไปปราศัย ช่วยน้องโบ๊ตที่หาดใหญ่ กลายเป็นดราม่า เปิดทีวีช่องไหนก็เห็นแต่ข่าวธรรมนัส- น้องโบ๊ต ดราม่ากันไป สะท้อนว่าเวทีนี้สู้กันยังไม่ถึงไหนก็ยอมแพ้กันแล้ว
“แม้แต่ท่าน พล.อ.ประวิตร ปราศัยเรื่องโครงการรัฐบาลต่างๆ ก็ดราม่า แบบนี้จะอยู่อย่างไร วันนี้ตนจึงไม่ต้องพูดถึงคุณสมบัติของน้องโบ๊ตอีก เพราะชาวสะเดารู้กันอยู่แล้วว่าเหมาะสม มีความรู้ มีความสามารถพร้อม วันที่ 16 มกราคมนี้ คงไม่ต้องถามว่าจะเลือกน้องโบ๊ตหรือไม่ ขอให้น้องโบ๊ต กราบงามๆ พี่น้องชาวสะดาเลย 3 ครั้งเป็นการขอบคุณพี่น้องประชาชน” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวอีกว่า ทั้งนี้จังหวัดสงขลา มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน สมัยก่อนมีต่างชาติมาค้าขาย มีด่านชายแดนไปสู่มาเลเซีย ชาวบ้านได้ขายสินค้า ติดต่อกันไปมา ดังนั้นถามว่า ถ้าคนสงขลา โดยเฉพาะชาวสะเดาถ้าาไม่เลือกคนหนุ่มไฟแรง เป็นคนดี การศึกษาดีมีความพร้อมอย่างนี้ ไม่เอาคนนี้แล้วจะเอาใคร น้องโบ๊ตจะเป็นกำลังและทำงานให้ลูกหลานเพื่อบ้านเมือง เพื่อประชาชนจะสืบสานต่อพัฒนา จังหวัดนี้ ซึ่งในอดีตท่าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ได้สร้างบ้านแปงเมืองให้คนสงขลามาแล้ว
“พี่น้องครับมีพี่น้องหลายถามผมว่า มีสื่อออกข่าวว่า บางท่านประกาศข่าวดีว่าราคา มาม่าไม่ขึ้นเป็นผลงานที่น่าภาคภูมิใจมากเหรอครับ ขณะที่พรรคเราไม่ได้พุดเอามัน ไม่เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นกลืนน้ำลายตัวแอง พรรคเราไม่พูดมากแต่ทำอย่างเดียว ผมไม่ว่าใครนะครับ พี่น้องครับ ผมขอยืนยันว่าไม่ได้ดูถูกคนใต้ ผมโตมาจากน้ำและข้าวจากคนใต้ จะดูถูกคนใต้ได้อย่างไร จะดูถูกคนจนได้อย่างไร พ่อแม่ผมเป็นคนจน พ่อเป็นชาวนา จนมาเป็นผู้ใหญ่บ้านผมจะถุกคนจนได้อย่างไร หรือกลัวแพ้ กลัวแล้วกลัวอีก พี่น้องครับ” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า วันนี้หากแป็นชียนมวยก็ยกให้คนหนุ่มอย่างน้องโบ๊ตเป็น “น้องโบ๊ต ส.ส.พลังประชารัฐ” เพราะฉะนั้น เพื่อให้ได้คะแนนไม่ใช่แค่พูด เราต้องทำต้องปฏิบัติ พรรคเราทำ และหลังมีกระแสดราม่าตนโทรฯ ถามทั้งท่านรัฐมนตรีสุชาติ ผอ.เลือกตั้งเขต6 และน้องโอ๊ตว่า อึดอัดใจหรือไม่ ทั้งสองคนตอบตรงกันว่า ไม่อึดอัดใจ ทุกคนพร้อมให้กำลังใจน้องโบ๊ต ตนจึงมาวันนี้ และมาฝากว่าวันที่ 16 ม.ค.นี้ พี่น้องลืมอะไรได้ แต่อย่าลืมน้องโบ๊ต เบอร์ 3.