“ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” รายงานเงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมาทยอยแข็งค่าขึ้น โดยการแข็งค่าของเงินบาทสอดคล้องกับทิศทางสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย ประกอบกับยังมีปัจจัยบวกจากสัญญาณเงินทุนไหลเข้า ซึ่งนักลงทุนต่างชาติมีสถานะเป็นฝั่งซื้อสุทธิทั้งในส่วนของตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย

ขณะที่เงินดอลลาร์ ขาดแรงหนุนเพิ่มเติม หลังจากที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงินเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แต่ก็จะไม่ให้มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ อย่างไรก็ดี ทิศทางอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ ชะลอลงบางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ หลังข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐ ที่ขยับขึ้นและความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด สนับสนุนโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มี.ค. นี้

ทั้งนี้ในวันศุกร์ (14 ม.ค.) เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 33.20 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับ 33.66 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (7 ม.ค.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (17-21 ม.ค. 65) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.90-33.70 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนของต่างชาติ และสถานการณ์โควิด-19 การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น และการกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR ของจีน

ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสองเดือน ธ.ค. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย เดือน ม.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามจีดีพีไตรมาส 4/64 และข้อมูลเศรษฐกิจเดือน ธ.ค. อาทิ การผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกด้วยเช่นกัน