เมื่อวันที่ 16 ม.ค. นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้ออกประกาศเตือนคนไทยถึงความเป็นไปได้จากคลื่นสึนามิ โดยระบุว่า วันที่ 16 ม.ค. เวลา 00.15 น. ตามเวลาท้องถิ่นในญี่ปุ่น กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นประกาศเตือนคลื่นสึนามิบริเวณหมู่เกาะ Amami-Oshima และหมู่เกาะ Tokara ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัด Kagoshima ซึ่งห่างจากกรุงโตเกียว 1,293 กิโลเมตร (กม.) และต่อมาในวันเดียวกัน เวลา 02.55 น. กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นออกประกาศเตือนคลื่นสึนามิบริเวณจังหวัด Iwate ทางตอนเหนือของญี่ปุ่นห่างจากกรุงโตเกียว ประมาณ 570 กม. สืบเนื่องจากเหตุภูเขาไฟระเบิดใต้ทะเลในประเทศตองกา เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2565

ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นขอให้ผู้ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง อพยพออกจากพื้นที่ใกล้ชายฝั่งและริมน้ำ ไปยังพื้นที่สูงหรือพื้นที่หลบภัย สำหรับเหตุการณ์สึนามิครั้งนี้ไม่ทำให้พื้นที่อื่นรู้สึกได้ถึงแผ่นดินไหว และยังไม่มีรายงานคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตมาจาก คลื่นสึนามินี้อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนในบริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่ดังกล่าว ดูแลรักษาตัวและเฝ้าระวังสถานการณ์ โดยติดตามข่าวสารของทางการญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่องในกรณีที่อาจเกิดแผ่นดินไหวตามมา

ขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตไทยที่ประจำการในอีกหลายประเทศแถบมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย, สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์, สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงซันดิอาโก ประเทศชิลี ได้ออกประกาศเตือนพร้อมคำแนะนำลักษณะเดียวกันไปยังคนไทยและชุมชนชาวไทยในประเทศเหล่านั้นแล้วเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย ประกาศผ่านเพจเฟซบุ๊กว่า ตามที่ได้เกิดเหตุภูเขาไฟใต้ทะเล Hunga-Tonga-Hunga-Ha’apai ระเบิดเมื่อวันเสาร์ที่ 15 ม.ค.2565 ที่ตองกา ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ห่าง จากกรุง Nuku’alofa ประมาณ 65 กม.และหลายประเทศในแปซิฟิกใต้ได้มีคำเตือนแจ้งระวังภัยจากสึนามิที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตองกา ฟิจิ และวานูอาตู สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา ขอแสดงความห่วงใยต่อชาวไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมา และขอให้ชาวไทยที่พำนักอยู่ในพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบจากการระเบิดของของภูเขาไฟและคลื่นสึนามิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งของประเทศในแปซิฟิกใต้ และบริเวณชายฝั่งของรัฐควีนส์แลนด์, นิวเซาธ์เวล์, วิคตอเรีย, แทสมาเนีย ติดตามข่าวสารจากทางการอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำเตือนของทางการอย่างเคร่งครัด.