เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง “ความนิยมต่อนายกรัฐมนตรี และ เบื้องหลังปัญหาวิกฤติ ช่วงต้นปี 2565” สอบถามกลุ่มตัวอย่างทุกสาขาอาชีพกระจายทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ 1,119 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 10-15 ม.ค. พบประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

เมื่อถามถึงการทำงานของทุกภาคส่วนแก้วิกฤติต่างๆของชาติบ้านเมืองและประชาชน พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 87.8 ระบุภาคเอกชน ผู้ประกอบการ ยังกินรวบผูกขาดธุรกิจ กีดกันรายย่อย บ่อเกิดปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นในระบบราชการ, ร้อยละ 86.8 ระบุภาคประชาชน ต้องร่วมรับผิดชอบเคารพกฎหมายและระเบียบกฎเกณฑ์ทางสังคม ไม่เอารัดเอาเปรียบกันเองไม่สร้างความเกลียดชังกันจนเกิดปัญหากระทบส่วนรวม, ร้อยละ 86.5 ระบุว่า ส่วนราชการกระทรวงต่าง ๆ ข้าราชการ ไม่ค่อยรับผิดชอบในหน้าที่ เกียร์ว่างปล่อยปละละเลยและยังรับประโยชน์เกิดการทุจริต

ร้อยละ 85.5 ระบุว่า นายกรัฐมนตรี นักการเมืองร่วมรัฐบาล และเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องต้องแสดงความจริงจังและจริงใจให้เห็น ในการนำข้าราชการที่ละเว้นหน้าที่ปล่อยปละละเลยจนเป็นเหตุของปัญ หาสำคัญมาลงโทษฯ ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 85.1 ระบุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องกล้าเปลี่ยนแปลงการเมืองใหม่และทำสิ่งที่ถูกต้อง สะสางกลุ่มผลประโยชน์ใกล้ตัวและพวกพ้องในกลุ่มราชการให้ได้อย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม ความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.0 ระบุ ต้องการให้ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้ถือธงนำกล้าเปลี่ยนแปลงการเมืองใหม่ การบริหารงานใหม่ๆ กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้องหลุดออกจากการบริหารประเทศแบบรัฐราชการ

นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 74.3 ต้องการให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี กล้าทำให้สิ่งที่ถูกต้อง เลือกประชาชนมากกว่าผลประโยชน์และการเกรงใจทางการเมือง รวมทั้งการเกี้ยเซียะผลประโยชน์กับพวกข้าราชการ และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 69.9 ระบุ ในเวลานี้ ยังไม่เห็นใครที่เหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมากกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ในขณะที่ ร้อยละ 30.1 ระบุมีคนอื่นเหมาะสมกว่า

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลชี้ให้เห็นว่า ประชาชนยังคงเชื่อมั่นให้กำลังใจและยังไม่เห็นใครอื่น เหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมากกว่าพล.อ.ประยุทธ์ ในเวลานี้เพราะส่วนใหญ่ มองว่าปัญหาวิกฤติของชาติบ้านเมืองและความเดือดร้อนทุกข์ยากของประชาชน เกิดจากหลายสาเหตุและผู้มีส่วนได้เสียในหลายภาคส่วน เช่นหน่วยราชการ การทุจริตคอร์รัปชั่น การละเว้นปล่อยปละละเลยและสมประโยชน์ของเจ้าหน้าที่รัฐ ภาคเอกชนรายใหญ่ที่ผูกขาดธุรกิจ และอื่นๆ

“นอกจากนี้ยังรับรู้ได้ว่า ปัญหาและการสั่งสมของปัญหาจนเกิดวิกฤติสังคม เกิดจากการปล่อยปละละเลยของส่วนราชการและการเรียกรับประโยชน์ทางการเมืองและการไม่แสดงความรับผิดชอบทางการเมือง จนเกิดช่องว่างนำสู่ความเสียหายชาติบ้านเมืองทางออกของปัญหาตามความเห็น คือ ผู้นำที่เด็ดขาด กล้าตัดสินใจเปลี่ยนแปลงและทำในสิ่งที่ถูกต้อง ยึดเอาประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ ต้องสอบสวนหาสาเหตุและผู้รับผิดชอบทุกปัญหาจัดทำบทเรียนร่วมกันเรียนรู้ พัฒนา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่สำคัญคือต้องปฏิรูปราชการและแก้ปัญหาทุจริต จริงจังเร่งด่วน ขณะที่ภาคการเมือง ต้องกล้าๆแสดงความรับผิดชอบมากกว่าที่เป็นอยู่ ไม่ทำตัวเป็นอีแอบกลัวเสียคะแนนอย่างเช่นที่เป็นอยู่” ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าว