เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแทพย์ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ทำการสดทอบประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกันจากวัคซีนในการป้องกันเชื้อโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอน โดยเก็บตัวอย่างเลือดหรือซีรั่มของผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้ว 8 สูตรที่ใช้ฉีดในไทย คือ 1. ซิโนแวค + แอสตราเซเนกา 2. แอสตราฯ + แอสตราฯ 3. ไฟเซอร์ 2 เข็ม 4. ซิโนแวค + ไฟเซอร์ 5.แอสตราฯ + ไฟเซอร์ ไม่ได้ทดสอบสูตรซิโนแวค 2 เข็ม เพราะเราเปลี่ยนสูตรมาเป็นสูตรไขว้แล้ว 6. การฉีดเข็มกระตุ้น ซิโนแวค 2 เข็ม + แอสตราฯ 7. ฉีดซิโนแวค 2 เข็ม + ไฟเซอร์ และ 8. ฉีดแอสตราฯ 2 เข็ม +ไฟเซอร์ โดยมีการเก็บตัวอย่างเลือดหลังรับวัคซีนแล้ว 2 สัปดาห์ ถือเป็นระดับที่มีภูมิคุ้มกันมากพอที่จะต่อสู้เชื้อโรคต่างๆ ได้ จากนั้นนำมาปั่นแยกน้ำเลือดออกมา แล้วนำลงไปในจานทดลองที่มีเชื้อของไวรัสโอมิครอน โดยเจือจางเป็นเท่าๆ 1 ต่อ 2 ต่อ 4 ต่อ 6 ไล่ไปเรื่อย ๆ เจือจางจนเหลือค่าไวรัสครึ่งหนึ่ง ซึ่งถือเป็นระดับสุดท้ายที่จะป้องกันการติดเชื้อได้ โดย

นพ.ศุภกิจ กล่าวต่อว่า ผลพบว่าภูมิคุ่มกันในเลือดเราที่เคยต่อสู้กับเดลต้าได้ค่อนข้างดี แต่เมือ่เจอกับโอมิครอยนแล้วลดลงทุกสูตร สอดคล้องกับข้อสันนิษฐานว่าการกลายพันธุ์ของโอมิครอยนน่าจะหลบวัคซีนได้ หลายๆ ประเทศทดสอบก็ได้ผลใกล้เคียงกัน สำหรับผลจากคนที่ฉีดวัคซีน 2 เข็ม กับกลุมที่ฉีด 3 เข็ม เพื่อดูค่าไตเติ้ลนั้น ซึ่งในส่วนของเชื้อโควิดนั้นยังไม่ทราบว่าค่าไตเติ้ลจะต้องมี 1 ต่อเท่าไหร่ แต่ตามหลักเชื้อโรคทั่วไปจะต้องอยู่ที่ 1 ต่อ 10 ก็จะป้องกันโรคได้ ดังนั้นเมื่อผลอกมาพบว่าคนที่ฉีดวัคซีน 2 เข็มไม่ว่าจะเป็นสูตรใดก็ตามพบค่าไตเติลขึ้นมาปริ่มๆ ไม่ได้สูงมากนัก กันโอมิครอนได้ไม่มาก โดยไฟเซอร์ 2 เข็ม ขึ้นมา 19.17 แอสตราฯ 2 เข็ม ขึ้นมา 23.81 สูตรซิโนแวค + แอสตราฯ ขึ้นมา 12 สูตรซิโนแวค + ไฟเซอร์ขึ้นมา 21 และสูตร แอสตราฯ+ไฟเซอร์ ขึ้นมา 21 ส่วนกรณีผู้ที่ฉีดวัควีน 3 เข็ม ไม่ว่าจะเป็นซิโนแวค 2 เข็ม ตามด้วยแอสตราฯ สูตรซิโนแวค 2 เข็ม ตามด้วยไฟเซอร์ หรือสูตรแอสตราฯ 2 เข็ม ตามด้วยไฟเซอร์ ภูมิฯ ขึ้นมาค่อนข้างดี ตั้งแต่ 71-200 เศษๆ 

“อันนี้คือตัวเลขภูมิคุ้มกันในร่างกายของมนุษย์ แต่กลไกการต่อสู้กับเชื้อโรคนั้นไม่ได้มีแค่ภูมิในน้ำเลือดเท่านั้น แต่ยังมีเซลล์เม็ดเลือดขาวที่จดจำไวรัสได้ก็จะออกมาช่วยกันจัดการ เพียงแต่อันนี้เราวัดภูมิในน้ำเลือดที่จะไปลบล้างฤทธิ์ของไวรัส เมื่อเทียบการจัดการเชื้อเดลตา กับโอมิครอนนั้นลดลงไป อย่างเช่น สูตรซิโนแวค+แอสตราฯ เดิมเคยจัดการกับเดลต้าได้ 201 พอเป็นโอมิครอนเหลือเพียง 12 เท่ากับว่าหายไป 17 เท่า ลดลงค่อนข้างเยอะ ดังนั้นจึงต้องมีการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อให้ภูมิคุ้มกันมากพอที่จะลดการแพร่เชื้อและลดการเจ็บป่วยรุนแรงหรือเสียชีวิตมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสูตรไหนก็ตาม ส่วนสูตรไหนจะอยู่ไหนก็ต้องติดตามต่อไป ส่วนกรณีโอมิครอนกำลังรวบรวมข้อมูลปัจจุบันอยู่” นพ.ศุภกิจ กล่าว และว่า ตอนนี้กำลังจะเก็บตัวอย่างคนฉีดสูตรไขว้ซิโนแวค+แอสตราฯ+แอสตราฯ หรือไฟเซอร์.