เจ้าหน้าที่ทางการเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ แถลงเมื่อวันศุกร์ที่ 14 ม.ค. กล่าวหาว่า ทอดด์ โจนส์ วัย 56 ปี และลอเรล ฮอฟฟ์แมน วัย 54 ปี สองพี่น้องจากเมืองสตรองส์วิลล์ ซึ่งอยู่ห่างจากคลีฟแลนด์ไป 25 กม. ตัดต้นไม้ใหญ่อายุ 250 ปี เมื่อเดือน ก.ย. 2564 อย่างผิดกฎหมาย แต่โจนส์อ้างว่าต้นไม้ดังกล่าวอยู่ในเขตพื้นที่ในครอบครองของเขาที่เมืองสตรองส์วิลล์
เจนนิเฟอร์ กรีสเซอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายอนุรักษ์ธรรมชาติของอุทยานคลีฟแลนด์ เมโทรพาร์คส์ กล่าวว่า เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว เธอเดินผ่านบริเวณเขตอนุรักษ์และพบตอไม้ที่มีสภาพเหมือนเพิ่งถูกตัดไปใหม่ ๆ ตรงจุดที่เป็นที่ตั้งของต้นวอลนัตดำขนาดใหญ่
ไมเคิล โอมอลลีย์ อัยการรัฐ แจ้งจับโจนส์และฮอฟฟ์แมน โดยโต้แย้งคำกล่าวของผู้ต้องหาว่าต้นไม้ต้นนั้นไม่ได้อยู่ในพื้นที่ในครอบครองของโจนส์ แต่อยู่ห่างจากเส้นแบ่งเขตพื้นที่ส่วนบุคคลของเขาราว 8 ฟุต ยิ่งไปกว่านั้น ทีมอัยการระบุว่า ต้นไม้ที่ปลูกในเขตดังกล่าวเป็นสมบัติของอุทยานคลีฟแลนด์ เมโทรพาร์คส ซึ่งทำหน้าที่ดูแลพื้นที่อนุรักษ์ราว 97 ตารางกิโลเมตร ในเขตของคลีฟแลนด์และบริเวณโดยรอบ
สองพี่น้องถูกจับและแจ้งข้อกล่าวหาตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค. 2564 ในข้อหาลักทรัพย์โดยอาศัยการหลอกลวงและปลอมแปลงข้อมูล ซึ่งเป็นข้อหาอาชญากรรม มีโทษสูงสุดคือจำคุก 18 เดือน
แจ็คเกอลีน เกอร์ลิง โฆษกของอุทยานคลีฟแลนด์ ระบุว่า ต้นไม้ที่ถูกตักเป็นต้นวอลนัตดำที่แข็งแรงสมบูรณ์ซึ่งต้นที่โตขนาดนี้นับว่าหาได้ยากมาก ขณะที่เจ้าหน้าที่จากสถานีตำรวจคลีฟแลนด์ เมโทรพาร์คส์ กล่าวว่า ต้นไม้ดังกล่าวมีมูลค่าถึง 28,800 ดอลลาร์สหรัฐหรือเกือบ 1 ล้านบาท และการจะปลูกต้นไม้ใหม่เพื่อทดแทนอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงถึง 100,000 บาท (3.3 ล้านบาท)
เจ้าหน้าที่สืบสวนกล่าวว่าในตอนแรก โจนส์กล่าวโทษว่าน้องสาวของเขาเป็นคนทำ แต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นพูดปกป้องตัวเอง หลังจากเจ้าหน้าที่บอกว่าแม่ยายของเขาซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้กัน ให้การว่าเขาและน้องสาวเป็นคนตัดต้นไม้ต้นนั้น
ทั้งสองพี่น้องไม่เชื่อว่าพวกเขาสมควรมีความผิดถึงขั้นฟ้องศาล โจนส์ กล่าวว่า “นี่เป็นเรื่องบ้ามาก ๆ ไม่ได้มีเจตนาร้ายเสียหน่อย”
แต่อัยการรัฐโฮมอลลีย์ กล่าวว่า “เราจะไม่เพิกเฉยต่อคนที่บุกรุกเข้ามาในพื้นที่อุทยานและตัดต้นไม้ซึ่งหาปลูกทดแทนไม่ได้อย่างผิดกฎหมาย เพื่อนำไปหาผลกำไร”
แหล่งข่าว
https://www.insider.com/ohio-siblings-facing-felony-charges-250-year-old-tree-2022-1
เครดิตภาพ : Getty Images
