ทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลก ยังมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศ มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซล ที่ส่งผลต่อค่าครองชีพหลายประเภท เช่น ค่าขนส่งสินค้า การเดินทาง จึงทำให้รัฐบาล ได้ประกาศดูแลราคาน้ำมันดีเซลไม่เกินลิตรละ 30 บาท โดยใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาอุดหนุนน้ำมันดีเซลทุกผู้ค้าลิตรละ 1.99 บาท เพื่อทำให้ราคาน้ำมันขายปลีกดีเซลไม่เกินลิตรละ 30 บาท

ทั้งนี้ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เข้าไปตรวจสอบราคาน้ำมันดีเซลของผู้ค้าน้ำมันล่าสุดวันที่ 17 ม.ค. 65 พบว่า มีผู้ค้าน้ำมันเพียง 2 ราย ที่ยังจำหน่ายน้ำมันดีเซล ไม่เกินลิตรละ 30 บาท ตามนโยบายรัฐบาล คือ พีทีที สเตชั่น และบางจากคอร์ปอเรชั่น จำหน่ายลิตรละ 29.84 บาท ส่วนผู้ค้าน้ำมันรายอื่นได้ปรับขึ้นไปเกินกว่าลิตรละ 30 บาทหมดแล้ว โดยเชลล์ ลิตรละ 31.44 บาท, พีที ลิตรละ 30.44 บาท, คาลเท็กซ์ ลิตรละ 30.34 บาท

เอซโซ่ ลิตรละ 30.34 บาท, ซัสโก้ ลิตรละ 30.24 บาท และเพียว ลิตรละ 30.34 บาท โดยการตั้งราคาขายปลีก ขึ้นอยู่กับผู้ค้าน้ำมันในการบริหารต้นทุน ซึ่งบางผู้ค้าน้ำมัน เริ่มปรับราคาดีเซลเกินกว่า ลิตรละ 30 บาทมาตั้งแต่ 7 ม.ค. 65 แล้ว เท่ากับว่า ทางพีทีที สเตชั่น และบางจากฯ ยอมจำหน่ายดีเซล ตามนโยบายรัฐบาลไม่เกินลิตรละ 30 บาท ไม่ได้ปรับราคาตามต้นทุนที่แท้จริงมากว่า 11-12 วันแล้ว  

รายงานข่าวจาก บมจ.ไทยออยล์ กล่าวว่า คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้ (17–21 ม.ค. 65) จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 80-85 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 83-88 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อบาร์เรล แนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังตลาดได้รับแรงหนุนจากอุปทานน้ำมันดิบโลกที่ยังคงตึงตัว จากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่ยังไม่คลี่คลายในประเทศลิเบียและคาซัคสถาน ขณะที่ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันโลกยังคงปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งค่าเงินดอลลาห์สหรัฐ ที่อ่อนค่าลง เพิ่มความน่าสนใจต่อการลงทุนในสัญญาน้ำมันดิบของนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น