เมื่อวันที่ 18 ม.ค.  นายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า  ตนในฐานะเป็นอดีต 1 ใน 9 แกนนำ กปปส. ได้เดินทางไปศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อยื่นอุทธรณ์คดีที่ถูกพนักงานอัยการฟ้องเป็นจำเลยที่ 7 ในข้อหากบฏ อั้งยี่ ซ่องโจร และข้อหาอื่นๆ ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2564 ศาลอาญาได้พิพากษาจำคุก 5 ปี  ดังนั้น ในวันนี้ (18 ม.ค.) จึงได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้นเป็นเอกสารอุทธรณ์ จำนวน 483 หน้า โดยคณะทนายความได้นำเสนอโต้แย้งคำพิพากษาของศาลชั้นต้น เพื่อให้ศาลอุทธรณ์มีความเห็นที่แตกต่างไปกับศาลชั้นต้นในหลายประเด็นแห่งข้อต่อสู้ อาทิ ในข้อหายุยงปลุกปั่น ได้ต่อสู้ในประเด็น ไม่ได้ปราศรัยยุยงปลุกปั่น เพราะเป็นการนำเสนอข้อเท็จที่เกิดขึ้นต่อผู้เข้าร่วมชุมนุมและประชาชน

นายถาวร กล่าวอีกว่า  นอกจากนี้ การชุมนุมคัดค้านการกระทำของรัฐบาล บุคคลที่เกี่ยวข้อง การขับไล่รัฐบาลและต่อต้านระบอบประชาธิปไตยเสียงข้างมากที่ไม่รับฟังเหตุผลเสียงข้างน้อย การออกกฎหมายนิรโทษกรรมแบบฉบับสุดซอยที่ช่วยให้คนผิดไม่ต้องรับโทษ ในข้อหาบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์นั้น ได้ต่อสู้ในประเด็นแห่งองค์ประกอบความผิด เนื่องจาก การเข้าสถานที่ราชการไม่ได้เกิดจากการบังคับ ขู่เข็ญ ทำร้าย หรือทำให้เกิดความกลัว  อีกทั้งเจ้าหน้าที่ส่วนราชการอนุญาตให้เข้าไปในสถานที่ราชการนั้นๆ ตลอดทั้งได้ต่อสู้ในประเด็นอำนาจสอบสวน ซึ่งรายละเอียดในทุกประเด็นมีเหตุผลรองรับครบถ้วนเพื่อให้ศาลอุทธรณ์ได้พิจารณา

“ผมขอขอบคุณคณะทนายสัญญา จันทรัตน์ และทนายสวัสดิ์ เจริญผล อย่างจริงใจ ที่ได้ตั้งใจทำหน้าที่ในวิชาชีพต่อสู้คดีให้กับผมตั้งแต่ในชั้นพนักงานสอบสวนจนถึงชั้นอุทธรณ์ หากผลการพิจารณาพิพากษาของศาลอุทธรณ์เป็นประการใดจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง” นายถาวร กล่าว