เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข กลุ่มผู้ปกครองจำนวนหนึ่งภายใต้การนำของ น.ส.นัทธมน ตั้งบุญธิมา เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ขอให้ยกเลิกการตรวจโควิดด้วยชุด ATK ในเด็กนักเรียน และผู้ใหญ่ รวมทั้งการยกเลิกการบังคับสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า โดย น.ส.นัทธมน กล่าวว่า ที่ผ่านมาพวกตนได้รับผลกระทบจากมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ที่ให้โรงเรียนบังคับนักเรียนตรวจ ATK ทั้งที่ไม่มีความจำเป็น ลูกหลานพวกเราต้องทนเจ็บจากการแยงจมูก เราเป็นพ่อแม่ เมื่อลูกเจ็บเราก็เจ็บ ขณะเดียวกันการสวมหน้ากากอนามัยก็ไม่ควรบังคับ ควรให้เป็นความสมัครใจการสวมหน้ากากอนามัย ใครอยากสวมก็สวม ที่สำคัญประชาชนทั่วไปที่สุขภาพแข็งแรงยังต้องตรวจอีก ซึ่งขัดแย้งกับการที่กระทรวงสาธารณสุขบอกว่าจะเป็นโรคประจำถิ่น

“ขอให้ยุติการบังคับตรวจ ATK ในเด็กและประชาชนทุกคน ให้ปฏิบัติต่อโควิดเป็นโรคประจำถิ่น ใครมีอาการป่วยจึงตรวจหรือรักษา ใครไม่ป่วยให้ใช้ชีวิตตามปกติ ให้ยุติการบังคับสวมหน้ากากโดยให้สวมแบบเป็นทางเลือกโดยสมัครใจ ให้เร่งเปิดประเทศโดยไม่สร้างเงื่อนไขกีดกันนักท่องเที่ยว และเร่งทำการฟื้นฟูเศรษฐกิจทุกช่องทางโดยด่วน” น.ส.นัทธมนกล่าว

วันเดียวกันที่ รพ.ราชวิถี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีผู้ปกครองคัดค้านการตรวจ ATK ในเด็กว่าการตรวจ ATK อยู่ที่ผู้บริหารโรงเรียนแต่ละแห่งมีมาตรการอย่างไร แต่การตรวจ ATK ไม่ใช่เป็นภาระ แต่เพื่อความปลอดภัย เมื่อมีคนมารวมตัวกันจำนวนมากจะได้คัดกรองไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในหมู่นักเรียน แม้การติดเชื้อในเด็กอาการไม่รุนแรง แต่หากติดแล้วกลับไปบ้านก็เสี่ยงแพร่เชื้อต่อให้ผู้ใหญ่ในบ้านได้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีอาการรุนแรงหากติดเชื้อ

“รัฐบาลขอความร่วมมือ ขอให้เข้าใจว่าเพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และเด็กเล็ก รอต้นเดือน ก.พ.เราจะมีวัคซีนสำหรับเด็กซึ่งจะมีการระดมฉีดให้เร็วที่สุด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกหลาน ซึ่งหวังจะได้รับการสนับสนุนจากผู้ปกครอง ยินดีให้บุตรหลานฉีดวัคซีนป้องกันโรค ยืนยันว่าวัคซีนที่จัดหามามีความปลอดภัย” นายอนุทินกล่าว.