เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่รัฐสภา นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ และรองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐยังเกิดความขัดแย้ง หลังจากล่าสุดภาพการสนทนาในกลุ่มไลน์ซึ่งมีชื่อนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ เสนอให้ทำโพลถามประชาชนถึงสาเหตุที่พรรคพลังประชารัฐตกต่ำ ว่า ไม่มีอะไร กรณีไลน์กลุ่มเป็นเรื่องที่เขาพูดคุยกันธรรมดา ซึ่งตนคิดว่าอย่าไปซีเรียสอะไร มันไม่ใช่ประเด็นใหญ่ เพราะการทำงานร่วมกันภายในพรรคพลังประชารัฐอาจเป็นคนละสไตล์บ้าง แต่ไม่ได้มีปัญหา เช่นเดียวกับผู้สื่อข่าวของแต่ละสำนักก็มีความแตกต่างกันไปบ้าง เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเล็กๆ แค่พูดคุยแซวเล่นกันเอง
เมื่อถามว่าแต่กลุ่มไลน์ดังกล่าวไม่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ อยู่ด้วย นายนิโรธ กล่าวว่า เป็นการแซวเล่นกันของคนที่อยู่ในกลุ่มไลน์ดังกล่าวว่าน่าจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ เมื่อถามย้ำว่าดูเหมือน นายสุชาติ และร.อ.ธรรมนัส มีปัญหาระหว่างกันมาตลอด นายนิโรธ กล่าวว่า ไม่มี ที่จริง นายสุชาติและร.อ.ธรรมนัส มีหัวใจเป็นนักกีฬา คือเป็นนักเลง ซึ่งไม่ใช่อันธพาล แต่หมายความว่าเขาเป็นคนเข้าใจง่าย พูดกันแค่ไม่กี่คำ ก็เข้าใจกันแล้ว ตนอยู่ใกล้ชิดกับทั้ง 2 คน หมายความว่าเป็นสมาชิกพรรคด้วยกัน ตนเห็นว่าทั้งคู่เป็นคนตรงไปตรงมา ตนจึงคิดว่าเรื่องดังกล่าวมันไม่ใช่ประเด็น
ผู้สื่อข่าวถามว่าบางคนมองว่าภายในพรรคพลังประชารัฐมีความขัดแย้งค่อนข้างมากพอสมควร นายนิโรธ กล่าวว่า คนภายนอกก็คิดอย่างนั้น แต่ที่จริงมันไม่ใช่ สไตล์ใครก็สไตล์มัน เมื่อถามว่าแสดงว่ายังรักกันใช่หรือไม่ นายนิโรธ กล่าวว่า รักกัน เพราะทุกคนช่วยกันทำงาน นายสุชาติกับร.อ.ธรรมนัส ไม่มีอะไร เขาก็พูดคุยกัน เมื่อถามอีกว่าแต่ไม่ค่อยได้เห็นนายสุชาติและร.อ.ธรรมนัสพูดคุยกันสักเท่าไหร่ นายนิโรธ กล่าวว่า เพราะเขาไม่ได้เจอกัน โดยนายสุชาติ มีงานในฐานะรัฐมนตรีจำนวนมาก ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส มีงานของพรรคจำนวนมากเช่นกัน เดินทางไปต่างจังหวัดเยอะ
ต่อข้อถามว่าเรื่องนี้ถือเป็นควันหลังจากกรณีที่พรรคพลังประชารัฐแพ้การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ใน จ.ชุมพร และสงขลา ใช่หรือไม่ นายนิโรธ กล่าวว่า การเลือกตั้งดังกล่าวเป็นการแข่งขันในพื้นที่ไข่แดงของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐทราบเรื่องนี้ แต่เพราะเรามีสมาชิกพรรคในภาคใต้ ดังนั้น ถ้าเราไม่ส่งคนลงสมัคร ก็จะทำให้เสียความตั้งใจของสมาชิกพรรค แต่เมื่อการแข่งขันจบแล้ว มันก็จบ เพราะพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มีสปิริตสูง และมีวุฒิภาวะสูงมาก
