เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. แถลงข่าวเรื่อง “CDC ป้องปรามทุจริต มิติใหม่” โดยระบุว่า ศูนย์ป้องปรามการทุจริตแห่งชาติ (CDC) ซึ่งเกิดขึ้นภายใต้รัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 63 โดยกำหนดให้รัฐต้องมีมาตรการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสการทุจริต ทั้งนี้ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. ได้สร้างบทบาทภาคีเครือข่าย ทั้งประชาชน เอกชน เจ้าหน้าที่รัฐชี้ช่องเบาะแส แต่เมื่อมีการแจ้งหลายช่องทาง รวมทั้งหน่วยงานของรัฐ ศูนย์ดำรงธรรม ตู้ ปณ.100 ก็ตาม อาจก่อให้เกิดความซ้ำซ้อน จึงเกิดแนวความคิด CDC เพื่อรวมเครือข่ายทั้งหมด และเฝ้ามอนิเตอร์เครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นข่าว หรือประเด็นต่าง ๆ หากพบว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. จะเข้าไปตรวจสอบเบื้องต้นก่อน โดยกระจายไปยังสำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดต่าง ๆ โดยศูนย์ CDC จะเฝ้ามอนิเตอร์ทั้งหมดว่ามีข้อมูลข่าวสารอะไร เสนอไปยังส่วนกลาง และมีศูนย์ปฏิบัติการวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสาร ก่อนสั่งการไปยังสำนักงาน ป.ป.ช.ทั่วประเทศ

เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวอีกว่า ส่วนการทำงานในเชิงป้องปราม เมื่อ ป.ป.ช. มีเหตุอันควรสงสัยว่า การกระทำผิดอาจเกิดขึ้น แต่ไม่สำเร็จผล เช่น เมื่อมีโครงการก่อสร้าง มีการร้องเรียนเข้ามา ก่อสร้างไม่ถูกต้อง เครือข่ายสมาชิกแจ้งเบาะแสมาในช่องทางข้างต้น ปรากฏว่า ป.ป.ช. รับทราบ และลงพื้นที่ตรวจสอบ ให้ข้อแนะนำหน่วยงานราชการว่า ก่อสร้างไม่ถูกต้อง ขอให้ปรับปรุงแก้ไข ขณะเดียวกันหน่วยงานรัฐแก้ไขตามข้อแนะนำของ ป.ป.ช. มาโดยตลอด เป็นเหตุให้ไม่มีการกระทำผิด ไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐถูกกล่าวหาต่อ ป.ป.ช. ทางราชการไม่ได้รับความเสียหายจากการกระทำ เพราะมีการปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้อง เป็นต้น

“นี่เป็นมิติใหม่ของ ป.ป.ช. จะชูนโยบายในการป้องปราม หากเหตุการณ์กระทำผิดเกิดขึ้นสำเร็จไปแล้ว จะเข้าสู่โหมดการปราบปราม ป.ป.ช. จริง ๆ ไม่อยากจะเข้าโหมดนี้ เพราะคดีแต่ละวันเยอะมาก เพราะต้องใช้ระยะเวลา 1-3 ปี เพื่อไต่สวนคดีให้แล้วเสร็จ มีคนรับผิด ราชการเสียหาย ดังนั้นแนวคิด CDC จะคอยมอนิเตอร์ข้อมูลข่าวสารทุกอย่าง มีการวิเคราะห์ เพราะไม่ใช่ทุกเรื่องเป็นอำนาจหน้าที่ ป.ป.ช. แต่มีการประสานหน่วยงานข้างเคียงด้วย เช่น สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อตรวจสอบอีกทางหนึ่งด้วย” นายนิวัติไชย กล่าว