เมื่อวันที่ 22 ม.ค. สัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการ กมธ.พิจารณาศึกษาโครงสร้างราคาการตรวจสอบการลักลอบการนำเข้าน้ำมันปาล์ม และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ใน กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาการ บริหารจัดการปาล์มน้ำมันอย่างเป็นระบบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ปาล์มน้ำมัน) เปิดเผยภายหลังการประชุม อนุ กมธ. เมื่อวันที่ 18 ม.ค.2565 ว่า คณะอนุ กมธ.มีความห่วงใยถึงราคาน้ำมันปาล์มขวดที่เพิ่มสูงขึ้นอยู่ในขณะนี้ โดยพบว่าบางพื้นที่มีราคาขายถึงขวดละกว่า 60 บาท ทั้งที่ความเป็นจริงควรจะต้องมีราคาไม่เกิน 58 บาท/ขวด ซึ่งราคาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนผู้บริโภค

ทั้งนี้หากเปรียบเทียบราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ประเทศมาเลเซีย ณ วันที่ 20 ม.ค.65 อยู่ที่ 5,425 ริงกิต/ตัน โดยแปลงค่าเป็นเงินบาทเท่ากับ 42,694 บาท/ตัน หรือประมาณ42.69 บาท/กก. กับราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จ.กระบี่ มีราคาอยู่ที่ประมาณ 55.00-56.25 บาท/กก. จ.สุราษฎร์ธานี ราคาอยู่ที่ประมาณ56 -56.25 บาท/กก. และ จ.ชุมพร ราคาอยู่ที่ประมาณ 47.25-58 บาท/กก. และเมื่อเปรียบเทียบกับราคาส่งตลาดกรุงเทพฯ เฉลี่ย 53.89 (ข้อมูลวันที่ 21 ม.ค.65) จะพบว่ามีส่วนต่างระหว่างราคามาเลเซียและไทยที่ประมาณ 11.2 บาท/กก.

https://agri.dit.go.th/file/micro/a2c-1.รายวันปาล์มเดือนมกราคม2565.pdf

ดังนั้นหากตั้งข้อสังเกตถึงสาเหตุของราคาน้ำมันปาล์มขวดแพง อาจเกิดขึ้นจากราคาต้นทุนน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ในแต่ละพื้นที่มีราคาไม่เท่ากัน เมื่อรวมกับราคาต้นทุนการผลิตที่กรมการค้าภายในและสมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์มมีความเห็นชอบร่วมกันได้แก่ ต้นทุนภาชนะบรรจุขวด ค่าใช้จ่ายการผลิตรวมการสูญเสีย ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร รวมทั้งกำไรที่บวกกับส่วนเหลื่อมทุกช่วงราคา ซึ่งภาครัฐได้กำหนดไว้ รวมเป็นจำนวน 12.94 บาท ทำให้ราคาขายน้ำมันปาล์มขวดในตลาดเกินกว่า 60 บาท 

นายสัณหพจน์ กล่าวว่า คณะ อนุกมธ. จึงได้ทำหนังสือถึงกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เพื่อขอข้อมูลชี้แจงถึงปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ไม่เท่ากันในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งเสนอให้มีการใช้หลักเกณฑ์ตั้งราคากลางรับซื้อที่จะต้องประกาศให้เป็นราคาที่เท่ากัน หรือใกล้เคียงกันในทุกจังหวัด โดยการที่ราคาน้ำมันปาล์มขวดปรับขึ้น อาจเป็นช่องทางที่กลุ่มนายทุนฉวยโอกาสในช่วงเวลานี้ เทขายน้ำมันปาล์มที่อยู่ในสต๊อก ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 100,000 ตัน ออกสู่ตลาด สำหรับปริมาณน้ำมันปาล์มสต๊อกคงเหลือ (ธ.ค.64) ซึ่งเป็นราคาที่กรมการค้าภายในและกลุ่มผู้ประกอบการโรงงานสกัดและโรงกลั่นรับทราบข้อมูลร่วมกันอยู่ที่ จำนวน 161,092 ตัน ลดลงจากเดือน พ.ย.64 ที่มีอยู่ 226,447 ตัน หรือลดลง  28.86 เปอร์เซ็นต์ โดยเมื่อได้รับทราบข้อมูลที่ชัดเจนจากกรมการค้าภายในแล้ว คณะอนุ กมธ.จะได้ดำเนินการวางแผนแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป 

นายสัณหพจน์  กล่าวต่อว่า นอกจากนี้คณะอนุ กมธ.ยังได้แสดงความกังวลถึงเรื่องของการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. ของทุกปี ที่ผลผลิตปาล์มน้ำมันมีจำนวนน้อย โดยจากข้อมูลข้างต้นจะเห็นว่าราคาส่วนต่างน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ของมาเลเซียและไทยที่ 11.2 บาท/กก. อาจเป็นสาเหตุจูงใจให้มีการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มในช่วงที่ราคาขายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นจึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดในการตรวจสอบการลักลอบนำเข้า และตรวจสอบสต็อกน้ำมันปาล์มภายในประเทศอย่างจริงจัง 

ขณะเดียวกัน อนุ กมธ.ยังได้ขอให้ กรมการค้าภายในชี้แจงถึงสาเหตุที่ราคาปุ๋ยแพงกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งเรื่องของราคาปุ๋ยในตลาดในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา การตรวจสอบข้อมูลบริษัทนำเข้าแม่ปุ๋ย โดยแม้ปาล์มน้ำมันจะราคาดี แต่เกษตรกรยังต้องรับภาระต้นทุนการปลูกที่สูงขึ้น ซึ่งทำให้เกษตรกร และประชาชนไม่ได้รับประโยชน์จากการที่ปาล์มน้ำมันราคาสูงขึ้นอย่างครอบคลุมและสมเหตุสมผล

“ผมหวังว่า กรมการค้าภายใน จะสามารถชี้แจงข้อมูลของสาเหตุราคาน้ำมันปาล์มดิบในแต่ละพื้นที่ซึ่งไม่เท่ากัน จนเป็นสาเหตุให้มีการใช้ราคาอ้างอิงดังกล่าว ปรับขึ้นราคาน้ำมันปาล์มขวดเกินกว่า 60 บาท/ขวด และการใช้หลักเกณฑ์ในการควบคุมราคาหรือตรึงราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ดังกล่าว พร้อมกันนี้ขอให้มีการตรวจสอบการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มอย่างเข้มงวด จากสาเหตุที่ราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ของประเทศมาเลเซีย-ไทย มีส่วนต่างที่เกินกว่า 8 บาท ซึ่งอาจเป็นเหตุจูงใจให้มีการลักลอบนำเข้ามาขายในประเทศเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการตรวจสอบข้อมูลที่ชัดเจนของปริมาณน้ำมันปาล์มในสต๊อกจากมิเตอร์เรียลไทม์ที่แท้จริงในทุกถังเก็บสต๊อก ไม่ใช่การรับข้อมูลจากผู้ประกอบการโรงงานเพียงฝ่ายเดียว หรือสุ่มตรวจแค่บางถังเท่านั้น เพื่อป้องกันการลักลอบกักตุนน้ำมันปาล์ม ซึ่งการดำเนินการเหล่านี้จะช่วยให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชนที่เป็นผู้บริโภคโดยตรง” นายสัณหพจน์ กล่าว.