เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่อาคารอนาคตใหม่ รามคำแหง 42 พรรคก้าวไกล จัดงานแถลงเปิดตัวนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นแคนดิเดตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ภายใต้สโลแกน “พร้อมชน เพื่อคนกรุงเทพฯ” และ”หมดเวลาซุกปัญหาไว้ใต้พรม” โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวเปิดงานว่า ครั้งแรกที่เข้ามาพรรคอนาคตใหม่ ตนได้พูดคุยกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้แชร์ความฝันคนรุ่นเดียวกัน อนาคตของประเทศไทยคืออะไร 70% ของการพูดคุยคือเรื่องการกระจายอำนาจ แม้เราโดนยุบพรรคแต่การผลักดันการกระจายอำนาจยังดำเนินต่อไป คณะก้าวหน้าลงแข่งอบต. อบจ. และเทศบาล สามารถเปลี่ยนแปลงการเมืองท้องถิ่นได้ ขณะที่กทม. เป็นพื้นที่แรกที่ได้เลือกผู้ว่ากำหนดอนาคตของพื้นที่ ซึ่งตนเป็นคนกรุงเทพฯ เลือกตั้งผู้ว่ามาหลายครั้งไม่เห็นผู้ว่าฯ คนไหน มีงบฯเยอะมีทรัพยากรเยอะ แต่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาที่หมักหมมได้ และยังไม่เห็นผู้ว่าฯคนไหน ที่พร้อมชนกับทุกปัญหา

สะพัดพรรคก้าวไกลส่ง ‘วิโรจน์ ลักขณาอดิศร’ ชิงผู้ว่าฯ กทม.

นายพิธา กล่าวอีกว่า ปีนี้สุดพิเศษ เพราะ 7-8 ปี ที่กรุงเทพฯ ไม่มีโอกาสเลือกผู้ว่าฯ ปีนี้เราจะได้สร้างความหวังคนกทม.ที่อึดอัดและต้องการผู้ว่าฯ ที่พร้อมบวก พร้อมชนกับปัญหาไม่ซุกปัญหาไว้ใต้พรม เมื่อเป็นปีที่พิเศษ จึงเปิดตัวผู้ว่าพรรคก้าวไกลเป็นคนที่พิเศษ เป็นผู้ว่าที่พร้อมทั้งประสานงานทุกภาคส่วนและพร้อมชนโดยเอาผลประโยชน์คนกรุงเทพฯเป็นตัวตั้ง ซึ่งตลอดเวลาหาคนที่เหมาะสมเป็นผู้ว่าฯ และไม่มีใครคนไหนทีดีเอ็นเอก้าวไกลชัดที่สุด ที่เชื่อมั่นสนิทใจว่าเอาประโยชน์คนกรุงเทพฯเป็นที่ตั้ง จึงตัดสินใจเอาส.ส.เสาหลักของก้าวไกลที่ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่ เอาเสาหลักของก้าวไกลนี้มาปักลงกลางกทม. นั่นคือนายวิโรจน์ ทั้งนี้มีหลายคนเสียดายนายวิโรจน์ ในสภา แต่อยากบอกว่าจะเสียดายมากกว่าถ้าไม่เห็นนายวิโรจน์ เป็นผู้ว่าฯ กทม.

จากนั้นนายวิโรจน์ ขึ้นบบเวทีเพื่อเปิดตัว โดยกล่าวว่าหลายคนถามทำไมต้องชน ทำไมไม่ประสาน ตนตั้งคำถามว่า ส่วยกรุงเทพฯจะร่วมมือยังไง ต้องชนและกำจัดอย่างเดียว ทุกคนรู้ดีส่วยกรุงเทพฯมีอยู่จริง เป็นปรสิตบ่อนทำลายกทม. ทุกคนรู้อยู่แก่ใจถ้ากำจัดส่วยนี้ไปได้กทม.ดีขึ้นเองอัตโนมัติ ส่วยกรุงเทพฯกัดกินตั้งแต่ชาวบ้านตาดำๆ พ่อค้ารายเล็กๆ ส่วยกรุงเทพฯ มีมากถึง 15% ทุกวันนี้ค่าครองชีพแพงอยู่แล้ว ชาวกทม.ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าคุ้มครองให้ผู้ใดอีก นี่คือเรื่องที่เราต้องชนและไม่ต้องกงห่วงตนทำงานกับข้าราชการไม่ได้ เพราะเชื่อว่าข้าราชการที่ดีรอทำงานกับผู้ว่าฯ ที่ให้พื้นที่กับข้าราชการที่ดี

นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า วันนี้ถึงเวลาผู้ว่าพิสูจน์ชาวกทม.ว่าถ้าใครโกงไปต้องไม่โต ผู้ว่าฯ ต้องประกาศให้ชัดว่าไม่รีดไถกทม.อีกต่อไป ถ้าผู้ว่าชื่อวิโรจน์ บอกไว้ตรงนี้ว่ากรุงเทพฯต้องหยุดไถทันที ใครมีหลักฐานจะลากคอมาลงโทษให้ดู ส่วยประสานไม่ได้ ร่วมมือไม่ได้เป็นภารกิจสำคัญที่ผู้ว่าฯ กทม.จับมือข้าราชการไปสู่ทิศทางในเรื่องที่ดี นอกจากนี้เรื่องที่ต้องชนอีกคือ ระบบราชการส่วนกลางและหน่วยงานที่มากมายไปหมด เช่นการแก้ปัญหาโควิดเรื่องการกระจายวัคซีน ซึ่งมีหน่วยงานมากมายแต่กลับยังมีปัญหา ดังนั้นตนพร้อมชน เช่นที่เคยชนมาแล้วกับรัฐมนตรีสาธารณสุข ไม่เห็นต้องกลัวอะไร

นายวิโรจน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ปัญหาอื่นๆ ทั้งสายไฟระโยงระยางต้องจัดระบียบจัดเก็บให้ดี เรื่องง่ายๆแค่นี้ต้องให้คนกรุงเทพฯยอมรับสภาพ ดังนั้นผู้ว่าฯ ต้องพร้อมชนทุกเรื่องเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของคนกรุงเทพฯ ขณะเดียวกันถ้าผู้ว่าฯ ชื่อวิโรจน์ ตนจะเปิดสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียวทันที เพราะเกี่ยวพันกับคำสั่ง คสช. ซึ่งตราบใดสัญญาไม่ถูกเปิดไปประเคนอะไรไว้กับนายทุนไม่สามารถอะไรได้เลย