เมื่อวันที่ 25 ม.ค. นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความระบุว่า อย่าดันทุรังจนทำประเทศพัง

ข่าวการเดินทางไปซาอุดีอาระเบียของนายกฯถือเป็นความลับสุดยอดที่รู้กันไปทั่ว ผู้เก็บความลับ (แอบ) อธิบายว่า เป็นการรื้อฟื้นสัมพันธไมตรีที่ย่ำแย่มากว่า 30 ปี ผมก็ภาวนาขอให้ประสบความสำเร็จตามที่คุยมาก็แล้วกัน แต่ก็มีผู้ไม่เห็นด้วยเยอะเหมือนกัน

กลุ่มหนึ่งบอกนายกทิ้งประเทศไปได้อย่างไร เพราะ COVID-19 ก็ยังระบาด คนป่วยเป็นหลักหมื่นอยู่ทุกวัน (PCR + ATK) หมูก็แพงจนนักวิชาการวิจารณ์ว่าขอให้รออีกหน่อยเมื่อเข้าที่แล้วราคาคงลดลงเอง (แบบนี้ก็มีด้วย) น้ำมันปาล์มก็ขึ้นราคาทุกวัน จะใช้น้ำมันหมูแทนก็ไม่ได้เพราะแพงพอๆกัน ส่วนราคาน้ำมันไม่ต้องพูดขึ้นทุกสัปดาห์มาเป็นเดือนแล้ว เห็นพูดว่าจะๆๆอยู่หลายครั้งเรื่องลดภาษีสรรพสามิต เมื่อไรจะเอาเสียที่เล่าครับ ชาวบ้านจะตายกันอยู่แล้ว

กลุ่มที่สองหนักหน่วงกว่าอีก เขาบอกว่า นายกฯหนีสภาฯ หนีการเมือง เขาลือแถมท้ายกล่าวหาท่านนายกว่าเรื่องทั้งหมดนี้ มันเกิดจากตัวท่านนายกฯเองนั่นแหละ ที่จับมือกับพรรคสีน้ำทะเลที่แค้นไม่ยอมเลิกรา วิ่งเข้าป่าไปหาพระฤาษีขอให้ปลดทาร์ซานจึงเกิดพรรคใหม่ขึ้นมาพร้อมพลพยุหเสนอำมาตย์ แต่ที่ผิดพลาดคือ นั่งเทียนปั่นรายชื่อกันเองแบบจัดสรร บางคนที่ไม่รู้ตัวจึงโวยวายว่าเห็นพวกเขาเป็นอะไร นึกจะโยกจะโยนไปที่ไหนก็ได้ตามใจ  ขณะนี้จึงมีสองพระหน่อแล้วที่ถือโอกาสไปอยู่กับพรรคคุณหนูได้กินกล้วยพุงกางไปแล้ว

กลุ่มที่สามยิ่งร้ายกว่า บอกว่า นายกฯพอวางระเบิดเสร็จแล้วแสร้งมาทำตัวเป็นนักแสดงบทโศก นั่งซึมทำตาระห้อย แถมเปิดวิทยุร้องเพลง “อย่ายอมแพ้” เรียกเสียงเชียร์จากบรรดาสาวกจนน้ำตาแทบกลั้นไม่อยู่ ผมทำงานมาก็มาก็หลายตำแหน่งแห่งที่ เพิ่งมาได้เห็นนายกรัฐมนตรีคนนี้ล่ะที่ร้องเพลงในขณะเป็นประธานในที่ประชุม! Thailand Only จริงๆครับ บอกตรงๆบทนี้ออกจะเกินไปหน่อย

ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับนักการเมืองแก่ๆ รุ่นโบราณเหมือนผม ทุกคนมีความเห็นเหมือนกันหมดว่า น่าจะเข้าขั้นตรีทูตแล้ว ต้องเข้า ICU เพื่อรักษาตัวลูกเดียว หากดันทุรังทำงานอยู่ต่อไป จะอันตรายต่อสุขภาพ และประเทศชาติ รัฐบาลที่ไม่มีเสถียรภาพ ข้าวก็จะยาก หมากก็จะแพงเช่นที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ การเล่นการเมืองแบบยุบหนอพองหนอแบบนี้ สถาบันการเมืองอ่อนแอ จนกลายเป็นสภาโจ๊กพรรคโจ๊กไปแล้ว ท่านเคยประกาศให้ผู้คนอยู่กับบ้านอย่าไปไหน แต่ท่านกลับเดินทางพร้อมคณะใหญ่โตไปต่างประเทศดื้อๆ แบบนี้ ต่อไปสั่งใครจะได้หรือ ดูนายกรัฐมนตรีหญิงนิวซีแลนด์ซิครับ เธอประกาศห้ามจัดงานแต่งงานเพราะกลัวแพร่โรคร้าย โดยเธอก็ทำตัวเป็นตัวอย่าง เลื่อนงานแต่งงานของตนเองทันที อย่างนี้ซิครับไหว้ได้อย่างสนิทใจ

ท่านนายกฯเคยฟังเพลง “ถามใจเธอดูก่อน” ไหมครับ ทุกอย่างมันอยู่ที่ท่านนะ และเมื่อท่านคิดออกก็ไม่ต้องรีบพูดหรอกผมจะคอยฟังเพลง “ภาษาใจ” จากท่านก็แล้วกัน