เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 25 ม.ค. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ตรวจราชการ จังหวัดชัยนาทและจังหวัดสิงห์บุรี เพื่อติดตามมาตรการรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้งปี 64/65 และแผนบริหารจัดการการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งในเขตพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยต่อสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคกลางในช่วงแล้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์น้ำปัจจุบันของ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (ข้อมูล 24 ม.ค.65) ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยฯ และเขื่อนป่าสักฯ มีปริมาณน้ำใช้การรวมกันอยู่ที่ 6,616 ล้าน ลูกบาศก์เมตรหรือ 36% โดยเขื่อนภูมิพลและสิริกิติ์อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย สำหรับสถานการณ์การเพาะปลูกข้าวรอบที่ 2 ในช่วงฤดูแล้ง ปี 2564/2565 พื้นที่ในเขตชลประทาน 22 จังหวัด ในลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำข้างเคียง มีการเพาะปลูกเกินแผน ซึ่งในวันเดียวกันนี้ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและแผนบริหารจัดการการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา รวมถึงแผนการปลูกข้าวนาปรังในเขตพื้นที่ลุ่มต่ำที่ได้รับผลกระทบจากการผันน้ำเข้าทุ่งในช่วงอุทกภัยที่ผ่านมา เพื่อเร่งชดเชยผลกระทบเพื่อให้เกษตรกรมีน้ำทำนาตลอดฤดูการเพาะปลูก 

พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ขอให้ส่วนราชการต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดชัยนาท บริหารจัดการและควบคุมการใช้น้ำให้เป็นไปตามแผน และดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่ทุ่งรับน้ำ ที่ได้รับผลกระทบจากการผันน้ำเข้าทุ่งให้มีน้ำทำนาตลอดฤดูการเพาะปลูก เพื่อชดเชยกับผลกระทบที่ได้รับในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา รวมถึงขอให้ช่วยกันเร่งรัดขับเคลื่อนแผนงานโครงการลุ่มเจ้าพระยาปี 65 ให้เป็นไปตามแผนงาน โดยขอให้มีการเร่งเก็บกักน้ำ จัดหาแหล่งน้ำสำรองในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ การเติมน้ำและเตรียมน้ำสำรอง รวมทั้งจัดสรรน้ำในฤดูแล้ง เพื่อวางแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งของเกษตรกร พร้อมทั้งให้เฝ้าระวังคุณภาพน้ำและทำความเข้าใจกับประชาชนในคราวเดียวกัน

ด้านนายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการ สทนช. กล่าวว่า นอกจากการติดตามแผนบริหารจัดการน้ำและการเพาะปลูกพืชลุ่มน้ำเจ้าพระยาแล้ว รองนายกรัฐมนตรี ยังได้ติดตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อบรรเทาและแก้ไขปัญหาภัยแล้งที่มีผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่เป็นการเร่งด่วน โดยมอบให้กรมชลประทาน เร่งดำเนินการเตรียมความพร้อมเรื่องที่ดิน การสำรวจ และออกแบบของโครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ต.ประศุก และโครงการแก้มลิงหนองอ้อจ.สิงห์บุรี โดยให้ สทนช. กำกับขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็วด้วย.