จากกรณี ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (กก.1 บก.อคฝ.) ขี่รถบิ๊กไบค์ ดูคาติ รุ่นมอนสเตอร์ ทะเบียน 1 กผ 9942 เชียงราย ชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือหมอกระต่าย จักษุแพทย์ ภาควิชาจักษุวิทยา ขณะกำลังเดินข้ามทางม้าลายจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต นำมาซึ่งความสูญเสียและเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนกลายเป็นเรื่องราวที่ถูกพูดถึงเรื่องความปลอดภัยของทางม้าลายบนท้องถนนว่าปลอดภัยจริงหรือไม่ ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 28 ม.ค. น.ส.อมรรัตน์ สุนทรวิภาต นักสังคมสงเคราะห์ รพ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 จ.สุพรรณบุรี ได้เปิดเผยเรื่องราวของการสูญเสียของคุณพ่อ จากการข้ามทางม้าลายเช่นกัน ว่า หลังจากทราบข่าวการเสียชีวิตของคุณหมอกระต่าย ซึ่งเกิดขึ้นในลักษณะเดียวกันที่ครอบครัวเราได้สูญเสียคุณพ่อสุดที่รักไป เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 59 จากการเดินข้ามถนนทางม้าลาย บริเวณหน้าขนส่ง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งขณะพ่อเดินข้ามทางม้าลาย รถทุกคันหยุดให้พ่อเดินข้าม จนพ่อเดินไปใกล้ถึงเลนถนนแล้ว มีรถยนต์ในเลนซ้ายขับมาด้วยความเร็ว พุ่งชนพ่ออย่างจังทำให้พ่อเสียชีวิต นำความเศร้าโศกเสียใจมาสู่ครอบครัวเป็นอย่างมาก ขณะนั้นคุณพ่ออายุ 80 ปี ครอบครัวเราทำใจกันไม่ได้ เสียใจมาก จากเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้หลายฝ่ายได้ช่วยออกมาเรียกร้อง เป็นกระบอกเสียงให้ออกมาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก จนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงขึ้น ด้วยการที่ผู้หลักผู้ใหญ่ในหน่วยงานให้ความสำคัญ นำอุปกรณ์สัญญาณไฟข้ามถนนมาติดตั้งทั้งสองฝั่ง โดยให้ผู้ข้ามทางม้าลาย กดสัญญาณไฟ ให้รถจอดก่อน แล้วจึงเดินข้ามไปอย่างปลอดภัย ซึ่งเแม้เวลาผ่านไปหลายปี แต่เวลาเราขับรถผ่านไปตรงจุดนี้ทุกครั้ง ก็คิดถึงพ่อทุกครั้ง แต่อย่างน้อยการสูญเสียครั้งนั้น ก็ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลง มีสัญญาณไฟ ทำให้ช่วยลดอุบัติเหตุได้มากขึ้น

นางสาวอมรรัตน์ กล่าวต่อว่า ในฐานะประชาชนคนหนึ่งและก็เคยสูญเสียคุณพ่อไปจากการข้ามทางม้าลายเช่นเดียวกับครอบครัวคุณหมอกระต่าย ตนอยากให้ทางม้าลายสามารถที่จะคุ้มครองคนข้ามได้อย่างปลอดภัยจริงๆ และผู้ใช้รถใช้ถนนก็มีจิตสำนึก ถ้าเห็นคนข้ามทางม้าลายก็ต้องชะลอรถ หรือ หยุดให้คนข้าม เพราะทุกชีวิตมีคุณค่าหมด ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เพราะฉะนั้น ใครที่ได้ใช้ทางม้าลาย อยากให้ได้รับการคุ้มครอง ส่วนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ก็ช่วยวางระบบ เสริมอุปกรณ์ติดตั้ง อุปกรณ์สัญญาณไฟให้รถหยุด รวมถึงต้องช่วยกันสร้างจิตสำนึก มีวินัยในการใช้รถใช้ถนน เคารพกฎจราจร ขับรถอย่างมีสติ ชะลอความเร็ว เพื่อช่วยกันลดอุบัติเหตุ

ด้าน นายเอกพันธุ์ อินทร์ใจเอื้อ นายก ทม.เมืองสุพรรณบุรี กล่าวว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์สัญญาณไฟทั้งสองจุดไว้บริเวณดังกล่าว และทำเนินสะดุด ตีช่องจราจร เพื่อให้รถชะลอความเร็วบริเวณดังกล่าว และจากเหตุการณ์เมื่อปี 59 หลังจากเกิดอุบัติเหตุ ทาง จ.สุพรรณบุรี ได้ร่วมประชุมกันหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี งานจราจร ตำรวจ สภ.เมืองสุพรรณบุรี ขนส่งจังหวัด เพื่อร่วมกันหาแนวทางป้องกันแก้ไข จนมีมติ ได้ให้ทางเทศบาลได้เป็นผู้ดำเนินการติดตั้งไฟจราจรดังกล่าว ซึ่งเป็นสัญญาณไฟให้คนข้ามทางม้าลาย และทำเนินเส้นสะดุด ในหลายๆ จุดในพื้นที่จุดเสี่ยง ทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล ที่มีทางม้าลาย เพื่อให้รถได้ชะลอความเร็ว ซึ่งทางเทศบาลเมืองได้เร่งดำเนินการทันที และสามารถช่วยลดอุบัติเหตุได้มากขึ้น อย่างไรก็ดี ต้องขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งผู้ใช้รถใช้ถนนให้ร่วมกันมีจิตสำนึก รักษากฎจราจร เพื่อจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก.