เมื่อวันที่ 28 ม.ค. พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) แถลงสถานการณ์โควิดประเทศไทยพบผู้ป่วยรายใหม่ 8,450 ราย, ติดเชื้อสะสม 2,415,472 ราย, หายป่วยเพิ่ม 7,484 ราย, อยู่ระหว่างรักษาตัว 83,698 ราย, อาการหนัก 528 ราย, ใส่เครื่องช่วยหายใจ 102 ราย, เสียชีวิตเพิ่ม 28 ราย, เสียชีวิตสะสม 22,126 ราย, จำนวนฉีดวัคซีนสะสม 114,087,421 โด๊ส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 สะสม 52,218,270 ราย, เข็ม 2 จำนวน 48,437,177 ราย, เข็มที่ 3 จำนวน 13,431,974 ราย

สำหรับ 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุดอันดับหนึ่งยังคงเป็นกรุงเทพฯ จำนวน 1,292 ราย, สมุทรปราการ 743 ราย, นนทบุรี 499 ราย, ชลบุรี 446 ราย, ภูเก็ต 379 ราย, ปทุมธานี 245 ราย, ราชบุรี 239 ราย, นครราชสีมา 192 ราย, ศรีสะเกษ 182 ราย และลพบุรี 168 ราย

พญ.พิศมัย กล่าวว่า สำหรับในส่วนของสถานการณ์โควิดโอมิครอน BA.2 เวอร์ชั่นล่องหน ที่ไทยพบผู้ติดเชื้อแล้ว 14 รายนั้น กระทรวงสาธารณสุขได้เน้นย้ำว่ายังไม่มีรายงานชัดเจนที่น่าเป็นห่วง ขณะที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ติดตามสถานการณ์โรคและตรวจผู้ป่วยในประเทศอย่างใกล้ชิด ย้ำว่ายังไม่มีรายงานความรุนแรงมากไปกว่าโอมิครอนเดิม แต่จะเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดและจะนำมารายงานให้รับทราบอย่างเป็นระยะ

พญ.พิศมัย กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก พูดคุยกันด้วยความเป็นห่วงในคลัสเตอร์ต่างๆ ทั้งร้านอาหาร โรงเรียน ตลาด โรงงาน สถานประกอบการ และพิธีกรรมทางศาสนา ขณะที่คลัสเตอร์สถานศึกษามีหลายจังหวัดพบการติดเชื้อมีตั้งแต่ระดับอนุบาล ก่อนวัยเรียนและสถานศึกษาทั้งภาครัฐภาคและเอกชน โรงเรียนประจำ โรงเรียนกีฬาและโรงเรียนมัธยมเช่น การจัดแข่งขันกีฬากันและจัดปัจฉิมนิเทศฉลองนักเรียนจบ ม.6 โดยมีการรับประทานอาหารเปิดหน้ากากอนามัยโดยเฉพาะที่ โรงเรียนประจําหญิงล้วนที่ราชบุรี พบติดเชื้อ 311 ราย เนื่องจาก รร.อนุญาตให้นักเรียนกลับบ้านปีใหม่ ก่อนกลับมา รร.จากสถานที่แตกต่างกัน เบื้องต้นมีมาตรการปิดโรงเรียนและทำการสอบสวนโรคต่อไป.