เมื่อวันที่ 30 ม.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งประเทศไทยมีสัดส่วนการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น และพร้อมฉีดวัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กที่มีอายุ 5-12 ปี คาดว่าเริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.นี้ และเข็มที่ 2 เริ่มฉีดในวันที่ 26 ก.พ.เป็นต้นไป

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นห่วงนักเรียนและเด็กเล็ก รวมถึงสถานศึกษาซึ่งจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่ม อาทิ แข่งกีฬา, ปัจฉิมนิเทศ, รับประทานอาหารร่วมกันในลักษณะเดียวกับคลัสเตอร์งานเลี้ยงอื่น จึงกำชับให้สถานศึกษาทุกแห่งปฏิบัติมาตรการสถานศึกษาปลอดโควิดที่ประกอบด้วย 6 มาตรการหลัก คือการเว้นระยะห่าง การสวมหน้ากากอนามัย การคัดกรองวัดไข้ การลดการแออัด และการทำความสะอาด และ 6 มาตรการเสริม ได้แก่ การดูแลตัวเอง การใช้ช้อนกลางส่วนตัว การกินอาหารปรุงสุกใหม่ การลงทะเบียนเข้าออก การสำรวจตรวจสอบด้วยแบบสอบถาม และการกักกันตัวเอง และ 7 มาตรการเข้มงวด คือการประเมินความพร้อมเปิดเรียนผ่าน “Thai Stop Covid Plus” และรายงานผลอย่างต่อเนื่อง การทำกิจกรรมแบบกลุ่มย่อย รวมทั้งเตรียมแผนเผชิญเหตุรองรับสถานการณ์ ในกรณีพบผู้ติดเชื้อสามารถจัดให้มีระบบ School Isolation และดูแลการเดินทางของนักเรียนในรูปแบบซีลรูท (Seal Route) เพื่อให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับนักเรียน ครู และบุคคลากรในโรงเรียนทุกคน.