เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (2 ก.พ.) ได้เกิดพายุฝนพัดกระหน่ำในหลายพื้นที่ของ จ.บุรีรัมย์ บางพื้นที่มีฝนตกหนัก และบางพื้นที่มีพายุตามมาด้วย ล่าสุดเช้านี้ ได้รับรายงานว่า ที่บ้านสระเกษ หมู่ 3 ต.พระครู อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ตรวจสอบที่โรงเรียนบ้านสระเกษ มีอาคารเรียนได้รับความเสียหาย หลังคาเปิดออก ฝ้าเพดานโรงเรียนหลุดออก เสาไฟฟ้าล้มเสียหาย โรงเรียนต้องปิดการเรียนการสอนเพื่อเคลียร์พื้นที่ก่อน นอกจากนี้ยังมีต้นไม้ใหญ่ของวัดบ้านสระเกษ ล้มหลายต้น ศาลากลางหมู่บ้านล้มทั้งหลัง มีบ้านเรือน ยุ้งฉาง ของชาวบ้าน ได้รับความเสียหายกว่า 30 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่หลังคาจะถูกแรงพายุพัดปลิวออกไป

นายศิริวัฒน์ จริยากุลวงศ์ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนสระเกษ กล่าวว่า ตอนแรกจะมีฝนตกลงมาก่อน หลังจากนั้นไม่นานได้มีพายุหมุนตามมา จนไม่มีใครตั้งตัวได้ แรงพายุทำให้อาคารเรียนได้รับความเสียหาย 3 อาคาร ทั้งอุปกรณ์การเรียนต่างๆ ของนักเรียนได้รับความเสียหายไปด้วย จำเป็นต้องหยุดการเรียนการสอนไปก่อน จนกว่าจะเคลียร์พื้นที่ได้ พายุครั้งนี้ถือว่ารุนแรงมากที่สุดในรอบ 30 ปี

ขณะนางรอง ปูดวงรัมย์ นายก อบต.พระครู ได้เข้าตรวจสอบ และทำการสำรวจความเสียหาย เพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการต่อไป ยอมรับว่าอาจจะไม่เพียงพอกับความเสียหายที่เกิดขึ้น เนื่องจากต้องทำตามระเบียบการเยียวยาช่วยเหลือที่ถูกกำหนดไว้ก่อนแล้ว

จ.สุรินทร์ ได้เกิดฝนและลมกระโชกแรงในพื้นที่ตัวเมืองสุรินทร์ และพื้นที่ ต.สลักได อย่างหนักเพียง 5 นาที เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (2 ก.พ.) โดยลักษณะลมเป็นลมหมุนพร้อมกับฝนตกลงมาอย่างแรง ทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านและโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ ยุ้งข้าวเสียหาย ต้นไม้หัก ที่บ้านตะบัน คุ้มหนองไซร์ หมู่ 7 และหมู่ 8 ตำบลสลักได อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ แรงลมหมุนได้พัดหลังคาบ้าน ยุ้งฉางที่เก็บข้าวเปลือก และหลังคาโรงเรือนเลี้ยงสัตว์เกือบทั้งหลังปลิวไปไกลตกตามทุ่งนากว่า 200 เมตร

โดยเฉพาะบ้านของ ร.ต.อ.ชัยชนะ แสนกล้า ข้าราชการบำนาญ (ตำรวจทางหลวง) เป็นบ้าน 2 ชั้น แรงลมพัดสังกะสีหลังคาบ้าน หลุดไปเกือบทั้งหลัง ข้าวของในบ้านถูกน้ำฝนเปียกไปทั้งหมด โดย ร.ต.อ. ชัยชนะ เล่าว่า ได้เกิดลมแรงในลักษณะลมหมุนพัดมาอย่างแรงพร้อมกับฝน ประมาณ 5 นาทีเท่านั้น ก็ได้พัดเอาสังกะสีหลังคาบ้านหลุดไปเกือบทั้งหมด ปลิวไปตกในทุ่งนาห่างจากบ้านประมาณ 200 เมตร ข้าวของในบ้านถูกฝนที่เทลงมาเปียกทั้งหมด เกิดขึ้นเร็วมาก ตอนเกิดเหตุตนได้หลบอยู่ใต้ถุนบ้านชั้นล่าง โชคดีที่ไม่เป็นอะไร พายุฝนที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ นับเป็นฝนแรกของปี

สำหรับความเสียหายเบื้องต้นพบว่าบ้านเรือนกว่า 30 หลังได้รับความเสียหาย ซึ่งขณะนี้ทางผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ปกครองและองค์การบริหารส่วนตำบลสลักได ได้เร่งลงพื้นที่สำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น และให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น