เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ครั้งที่ 1/2565 ผ่านระบบ Video Conference ถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังมีการคาดการณ์อาจมีการยุบสภาว่า ส่วนตัวติดตามมาตลอดเรื่องการเมืองและต้องวิเคราะห์สถานการณ์ พร้อมปรึกษาหารือผู้ที่เกี่ยวข้อง ทุกคนไม่ใช่นายกฯ ตัดสินใจแต่เพียงผู้เดียว และต้องตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลที่มีอยู่ ตอนนี้ยังไม่มีอะไรแต่สิ่งสำคัญที่สุดคือรัฐบาลต้องทำงานให้ได้ บ้านเมืองมีปัญหาประชาชนเดือดร้อนต้องทำงานให้ได้ไปก่อน ส่วนการเมืองก็ไปว่ากันทางการเมืองต่อไป สิ่งสำคัญที่สุดเราจะต้องเผชิญคือการอภิปรายในสภา ซึ่งได้เตรียมความพร้อมชี้แจงไว้อยู่แล้ว และเชื่อการอภิปรายไม่มีอะไร และเป็นคำถามที่ปกติถามรายวันอยู่แล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกระแสข่าวการต่อรองขอเก้าอี้รัฐมนตรีจากกลุ่ม 21 ส.ส.ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ขับออกจริงหรือไม่ ว่า “ยังไม่มีใครขอมาและไม่อยู่ในแนวทางที่ต้องปฏิบัติเวลานี้ ต้องทำงานก่อน”

เมื่อถามถึงการเลือกตั้งซ่อม พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แพ้มาตลอด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกระแสความนิยมรัฐบาล โดยเฉพาะตัวนายกฯ อยู่ในช่วงขาลงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็เป็นเรื่องการเลือกตั้งซ่อมเขตไป ประเทศเรามีกี่เขต รัฐธรรมนูญใหม่มีกี่เขต 400 เขตใช่ไหม มันจะแพ้เขตสองเขตก็เป็นเรื่องแพ้ชนะ ว่ากันไปตามความนิยมของประชาชน และที่บอกว่าเป็นเพราะกระแสนิยมรัฐบาลหรือ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในช่วงขาลงนั้น ผมไม่รู้ขาลงหรือขาขึ้น ผมก็เหมือนคนขึ้นบันไดลงบันไดทุกวัน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการทำงานมากกว่า ส่วนการเมืองก็คือการเมือง”

เมื่อถามว่า นายกฯ ให้กำลังใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี อย่างไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในส่วนของพรรค พปชร.ก็ให้กำลังใจในการทำงาน ซึ่งทราบว่าทุกคนทำงานไม่ง่ายนักในทางการเมืองตนพยายามทำให้ทุกฝ่ายเกิดความเข้าใจซึ่งกันและกันโดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาล ยืนยันไม่มีอะไรและได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคไม่ได้มีปัญหาใดๆ

เมื่อถามถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส​ พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา โพสต์ว่า ศัตรูของศัตรูคือมิตร ทำให้พรรคเศรษฐกิจไทย กลายเป็นหนามที่คอยทิ่มตำรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ใครพูดคำกล่าวอะไรแล้วแต่ ผมไม่ใช่คนเจ้าคารมแบบใครทั้งสิ้น ใครพูดอะไรก็ฟังไว้แล้วกัน”

เมื่อถามว่าวันนี้ไม่จำเป็นต้องเอาพรรคใหม่มาร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า “พรรคไหน” ก่อนที่ผู้สื่อข่าวระบุว่าพรรคเศรษฐกิจไทย ที่ 21 ส.ส.กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส แยกออกไป พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เขาก็อยู่ร่วมรัฐบาลอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ” เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า หมายความว่าสถานะ พรรคเศรษฐกิจไทย ตอนนี้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เขายืนยันว่าร่วมรัฐบาล พล.อ.ประวิตร บอกอย่างนั้น และยังไม่มีความคิดปรับ ครม. สถานการณ์ยังไม่มีความจำเป็นถึงขนาดนั้น”

เมื่อถามว่าสถานการณ์ขณะนี้มีความจำเป็นที่นายกฯ ต้องไปเป็นหัวหน้าพรรค พปชร.หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ยังไม่คิดอะไรถึงตรงนั้น อย่างที่บอกแล้วว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น มันก็เกิดขึ้น มันก็ไม่ได้ ถึงจนกระทั่งมันเลวร้ายมันแย่ไปทั้งหมด อย่างที่ผมบอกแล้ว เลือกตั้งก็เลือกตั้งเป็นเรื่องธรรมดา เป็นการเลือกตั้งซ่อม และผมยังเชื่อมั่นว่าประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจ ไม่เป็นไรหรอก ไว้ดูถ้ามีการเลือกตั้งใหญ่ก็ค่อยว่ากันอีกทีก็แล้วกันเมื่อถึงตอนนั้น”