เมื่อวันที่ 7 ก.พ. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 8 ก.พ.นี้ มีวาระพิจารณาโครงการขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว มูลค่า 400,000 ล้านบาท ออกไป 40 ปี ให้กับบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (บีทีเอส) ว่ากระทรวงมหาดไทยคงจะนำเสนอต่อที่ประชุม ครม.  เมื่อถามถึงกรณีที่มีการเปิดเผยว่านายสุชัชวีร์ สุวรรณวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จากพรรคประชาธิปัตย์ มีส่วนเข้าไปเจรจาโครงการนี้ เพราะเป็นหนึ่งในคณะกรรมการแก้ไขปัญหาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวด้วย หากเป็นเช่นนี้ มีโอกาสที่ ครม. อาจถอนเรื่องออกก่อนหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่าไม่ทราบ เป็นไปได้ทั้งนั้น อย่างไรก็ตามส่วนตัวไม่คิดว่าจะไปเกี่ยวอะไรถึงนายสุชัชวีร์ เพราะคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มีจำนวนมาก

ต่อข้อถามว่าอะไรจะเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ ครม.ต้องหยุดชะงักในการที่จะพิจารณาโครงการนี้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่าเหมือนกับเรื่องทั่วไปที่มีการเสนอมา และถ้า ครม.ยังติดใจว่ายังไม่พร้อม ก็ดึงกลับออกไปเพื่อให้ไปหาข้อมูลมาเพิ่มเติม ซึ่งโครงการนี้เคยถูกเสนอมาแล้ว และถูกดึงออกไป

เมื่อถามว่าการที่เสนอเข้า ครม.มาได้ในวันพรุ่งนี้ แสดงว่าปัญหาที่เคยมี ได้คลี่คลายแล้วใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่ากระทรวงมหาดไทยได้รายงานว่า ได้มีการทำความกระจ่างแจ้งแล้วในระดับหนึ่ง ก็เอาเข้ามาได้ ถ้า ครม.ยังติดใจอยู่ก็ส่งกลับให้กระทรวงมหาดไทยไปหาข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป เมื่อถามต่อว่าถ้าครม.พิจารณาให้โครงการนี้ผ่านไปแล้ว และฝ่ายค้านยังคงติดใจและนำมาอภิปรายในสภา โครงการนี้จะเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ได้ ก็เดินต่อไป ติดตรงไหนก็แก้ตรงนั้น ส่วนที่จะไม่พอใจอะไรกัน ถ้า ครม.ผ่านไปแล้ว ก็ไปหาช่องทางฟ้องร้องกันโดยวิธีอื่นเอา แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ปกติ ทางฝ่ายค้านเขาจะยื่นอภิปรายในสภาอยู่แล้ว ไม่น่ามีปัญหาอะไร