เมื่อวันที่ 8 ก.พ. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 65 ตนได้ทำหนังสือด่วนที่สุด วันที่ 7 ก.พ. 65 เรื่อง ขอลาการประชุม ครม. ถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี โดยได้ระบุเหตุผลว่า เนื่องจากติดภารกิจสำคัญ จึงขอลาการประชุม พร้อมกันนี้ได้ส่งหนังสือด่วนที่สุด เรื่อง ความเห็นประกอบการพิจารณาของ ครม. เรื่อง ขอความเห็นชอบผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว มายังเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ให้นำเสนอ ครม. เพื่อประกอบการพิจารณาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวด้วยเช่นกัน

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า โดยในหนังสือดังกล่าว ได้แจ้งให้ทราบ กระทรวงคมนาคมได้พิจารณาข้อมูลเพิ่มเติมของกรุงเทพมหานคร (กทม.) แล้ว ขอยืนยันตามความเห็นเดิมว่า ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของ กทม. เนื่องจากข้อมูลที่ กทม. จัดทำเพิ่มเติมนั้น ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในข้อเท็จจริงที่ทำให้การวิเคราะห์ของกระทรวงคมนาคมแตกต่างไปจากเดิม โดยเฉพาะในประเด็นของการคำนวณอัตราค่าโดยสาร การรองรับระบบตั๋วร่วม และความชัดเจนของประเด็นข้อกฎหมาย นอกจากนี้ปัจจุบันการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ยังคงเป็นหน่วยงานเจ้าของกรรมสิทธิ์ในสิ่งก่อสร้างและที่ดิน ตลอดแนวโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 2 ช่วง อันเป็นสาระสำคัญที่ไม่อาจเห็นด้วยต่อแนวทางการดำเนินการตามข้อเสนอของกระทรวงมหาดไทย ตามที่กระทรวงคมนาคมได้เคยนำเสนอ และขอแจ้งยืนยันในครั้งนี้

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า กระทรวงคมนาคมขอให้ข้อเท็จจริงเพิ่มเติม กรณีที่ กทม. รายงานว่าการโอนกรรมสิทธิ์ยังไม่สมบูรณ์ เนื่องจาก รฟม. ยังไม่สรุปรายละเอียดด้านการเงิน ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ทำให้ไม่สามารถรับโอนโครงการได้นั้น กระทรวงคมนาคมขอรายงานข้อเท็จจริงว่า กทม., รฟม., สำนักงบประมาณ, สำนักบริหารหนี้สาธารณะ และกระทรวงคมนาคม ได้ประชุมหารือเพื่อสรุปรายละเอียดค่าใช้จ่ายโครงการ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ร่วมกันเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 63

นายศักดิ์สยาม กล่าวด้วยว่า แต่เรื่องดังกล่าว ยังมีประเด็นเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการตามเงื่อนไขการอนุญาตให้เข้าพื้นที่ กรณีการติดตั้งสะพานเหล็กแยกหทัยราษฎร์ และแยกพุทธมณฑลสาย 2 ซึ่งรอคำยืนยันจาก กทม. เนื่องจากการพิจารณากรอบวงเงินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต จะได้ข้อสรุป มีความจำเป็นต้องทราบความชัดเจนของแนวทางการติดตั้งสะพานเหล็กทั้ง 2 แห่ง เพื่อประกอบการจัดทำรายละเอียดค่าใช้จ่ายของโครงการ ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้มีหนังสือเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 63 และวันที่ 2 พ.ย. 64 ขอทราบผลการพิจารณาของ กทม. แต่ปัจจุบัน กทม. ยังไม่ได้แจ้งผลการพิจารณาให้กระทรวงคมนาคมรับทราบแต่อย่างไร.