กรณีทีมข่าวเฉพาะกิจส่วนกลางเดลินิวส์ ได้เปิดประเด็นถึงเรื่องราวปัญหาของ กิจการหินและสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ เขาวังปลา หมู่ 11 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เนื้อที่ 208 ไร่เศษ ได้ถูก ส.ส.นำเข้าไปพูดพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภา ตั้งแต่ปี 64 จากนั้นยังมีผู้นำไปร้องต่อที่ คณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) กระทั่งปลายเดือน ม.ค.65 สตง.ได้ตรวจพบว่า มีข้อบกพร่องเนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี หรือแบบแผนการปฏิบัติราชการ

นอกจากนี้ สตง. ยังได้เสนอแนะเพื่อให้การดำเนินงานของกองทัพเรือ เป็นไปตามกฎหมายและแบบแผนการปฏิบัติราชการ เห็นควรให้ 1.พิจารณายกเลิกและยุติการประกอบกิจการหินฯ เนื่องจากมิได้เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ตามพระราชบัญญัติจัดระเบียบ ข้าราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 มาตรา 8 และ มาตรา 20 เป็นการดำเนินธุรกิจเชิงแข่งขันกับเอกชน ซึ่งต้องห้ามตามมาตรา 75 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และไม่เข้าหลักเกณฑ์สวัสดิการภายในส่วนราชการและสวัสดิการเชิงธุรกิจ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดสวัสดิการภายในส่วนราชการ พ.ศ.2547 และประกาศคณะกรรมการสวัสดิการข้าราชการ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 9 ก.พ. พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ถึงกรณีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เสนอให้กองทัพเรือยุติการทำกิจการหินฯ บริเวณเขาวังปลา อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่า เรื่องดังกล่าวทางฐานทัพเรือสัตหีบ ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบและดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอยู่ ทางส่วนกลางจึงยังไม่มีข้อมูลในเรื่องนี้.