เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวเศร้าสุดสะเทือนใจที่กำลังแชร์อยู่ในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้ ภายหลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก @Engkarn Phonpho ได้เล่าเรื่องราวการตัดสินใจเซ็นชื่อ อนุญาตให้ “การุณยฆาตน้องแมว” ซึ่งเปรียบเสมือนครึ่งหนึ่งของชีวิต หลังจากอยู่ด้วยกันมาถึง 6 ปี

โดยระบุว่า “วินาทีที่เซ็นชื่อลงไปในใบนั้น มันคือเวลาที่ใจทั้งใจมันสลายลงไป เมื่อต้องรู้ว่าชีวิตอีกครึ่งหนึ่งของตัวเองกำลังจะจากไปแบบที่ไม่มีวันกลับมา” ผมอยู่กับดอฟมา 6 ปี อยู่กันแค่สองชีวิตมาตลอดในเวลาเกือบ 24 ชั่วโมงในแต่ละวัน และคนที่รู้ว่าดอฟต้องสู้กับความเจ็บปวดมานานมากขนาดไหนก็คือผมเอง

ผมอาจจะมีสังคมมีครอบครัว มีเพื่อน มีงานให้ทำ มีโลกใบอื่นนอกเหนือจากที่มีกับเค้า แต่สำหรับเค้าผมคือโลกทั้งใบของเค้ามาโดยตลอด “ดอฟเป็นแมวที่มีน้ำคั่งในสมองก้อนใหญ่จนต้องผ่าตัดต่อท่อเพื่อระบายน้ำออกจากสมองมาไว้ที่ช่องท้องฝังเอาไว้อยู่ในตัวของเค้ามาตลอดเวลาเกือบ 3 ปี ทุกครั้งที่ดอฟเจ็บปวดทรมาน ผมเจ็บปวดและทรมานไปด้วยไม่ต่างกัน มันเจ็บที่เราช่วยอะไรเค้าไม่ได้ ดอฟมีชีวิตอยู่ได้ด้วยการกินยากดอาการเจ็บปวดของเขาเอาไว้เท่านั้น ผมรู้ว่ามันคือวงจรที่ทรมานมากสำหรับเขากับการที่ต้องหายปวดเพื่อกลับไปปวดใหม่ มันหนักหนามากเกินกว่าที่ชีวิตเล็กๆชีวิตหนึ่งควรจะได้รับมานานมากเกินไปแล้ว นั่นเลยเป็นสาเหตุที่ผมดูแลเค้าดีกว่าที่ผมดูแลตัวผมเอง”

เราสื่อสารกันด้วยแววตาของเขามาตลอดว่าถ้าเค้ายังอยากสู้อยู่ ยังอยากมีชีวิตอยู่ ผมยอมเสียทุกอย่าง เงินเก็บที่มี ข้าวของที่สะสมถูกเปลี่ยนมาเพื่อรักษาชีวิตของเขาเอาไว้ ผมแลกทุกอย่างได้ถ้าเค้ายังแสดงออกว่ายังอยากสู้อยู่ “ผมตัดสินใจหาข้อมูลทางเลือกอีกทาง ที่ให้เค้าไปอย่างสบายที่สุดด้วยการ put to sleep จนมั่นใจว่ามันจะเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายที่ผมแสดงออกให้กับเค้าได้ว่าผมรักมากแค่ไหนในกรณีสุดท้ายของเราเตรียมเอาไว้ แล้วเริ่มทำใจมาตั้งแต่ตอนนั้น” จนกระทั่งวันที่มันหนักเกินกว่าที่เค้าจะสู้ต่อก็มาถึง ดอฟแสดงออกทางแววตาว่าเค้าไม่ไหวแล้ว แสดงออกว่าได้โปรดปล่อยเค้าไป ความเห็นแก่ตัวของผมที่จะยื้อเค้าเอาไว้ก็จบลง

ผมเลือกทางที่จะปล่อยให้เค้าไปอย่างสบายที่สุดเท่าที่จะทำได้ คิดโดยแทนตัวเองลงไปเป็นเค้าว่าถ้าเราอยู่ในจุดนั้น เรายังอยากจะมีชีวิตแบบที่ต้องวนลูปความเจ็บปวดนี้อยู่มั้ย เลือกเส้นทางที่ผมจะทรมานไปอีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้เอาไว้ เพียงเพื่อขอให้เส้นทางแห่งความเจ็บปวดของเค้าจบลง

“แต่พอมาถึงเวลาจริงๆแล้ว การจากลามันไม่เคยง่ายแบบที่เราเคยคิด เคยเตรียมใจว่าจะผ่านมันไปได้เลย” คุณหมอที่โรงพยาบาลยังคงเป็นกลุ่มคนที่น่ารักมากสำหรับดอฟมาเสมอ ขอบคุณที่ช่วยเอ็นดูน้องมาโดยตลอด รักดอฟเหมือนแมวของตัวเอง คุณหมอผลัดกันร่ำลาดอฟก่อนที่จะเดินยาให้เค้า

“ดอฟจากไปแล้ว ในแบบที่หลับสบายด้วยสีหน้าที่มีความสุขในแบบที่ผมมักจะลงรูปการหลับแบบสบายที่สุดของเค้า เพราะนั่นคือเวลาเดียวที่ดอฟน่าจะมีความสุขมากที่สุด ผมขอบคุณทุกคนที่รักและเอ็นดูน้องมาตลอด ขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือเวลาที่เค้าเจ็บปวด ขอบคุณทุกคนที่คอยถามไถ่อาการ ขอบคุณทุกคนมากๆจริงๆ” สุดท้ายอยากขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงผม ผมมั่นใจว่าจะผ่านช่วงเวลาที่เคยมีเขาไปได้ ด้วยการที่มีเวลาที่ไม่มีเขาเข้ามาแทนเช่นกัน แม้เวลานี้มันจะยากเกินไปหน่อยก็ตาม ขอบคุณครับ…

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @Engkarn Phonpho